ตอนที่ 7 แดกดัน

“แค่ก่อไฟเอง ท่านแม่อย่าดูถูกข้าเชียวนะ!” ยามนี้พ่อซูเพิ่งกลับมาจากห้องน้ำพอดี ทันทีที่เข้ามาในครัวและเห็นซูหว่าน เขาก็ชะงักไปครู่หนึ่ง ริมฝีปากขยับเล็กน้อย แต่แล้วก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา ซูหว่านทักทายเขาอย่างกระตือรือร้น “ท่านพ่อ อรุณสวัสดิ์!” นางเผยรอยยิ้มที่นางคิดว่าหวานที่สุด คนเป็นพ่อคงจะปฏิเสธรอยยิ้มแบบนี้ของลูกสาวไม่ได้ใช่ไหม! แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ พ่อซูเป็นผู้ชายที่อยู่แต่ในหมู่บ้านมานาน จะเคยเห็นเด็กหญิงที่หน้าตาสะสวยเช่นนี้เสียที่ไหนกัน แม้กู้เย่ว์จะหน้าตาดี แต่ก็ยังสู้ไม่ได้กับความงามที่น่าทึ่งของซูหว่าน เมื่อเทียบกันแล้ว กู้เย่ว์ก็เป็นแค่เด็กสาวชาวบ้านที่หน้าตาน่ารักธรรมดาๆ เท่านั้นเอง! โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เด็กน้อยคนนี้ยังเป็นลูกสาวแท้ๆ ของเขา น้ำเสียงอ่อนหวานเรียกตนว่าพ่อ เขาพลันรู้สึกภาคภูมิใจและสุขใจอย่างยิ่ง ในหมู่บ้านนี้จะมีบ้านไหนที่มีลูกสาวน่ารักน่าเอ็นดูเช่นนี้บ้าง? “เอ๋ หวานหว่านตื่นแล้วหรือ ไปล้างหน้าล้างตาเถอะ พ่อจะก่อไฟเอง!” คนเป็นพ่อกลับไม่แสดงตัวห่างเหิน ทำให้ซูหว่านรู้สึกสบายใจขึ้นมาก พ่อซูเห็นว่านางเป็นคนติดดิน ก็รู้สึกว่านางเป็นเด็กดี แม่ซูตักน้ำร้อนใส่กะละมังและหยิบผ้าสะอาดผืนหนึ่งให้นางไว้เช็ดหน้า ซูหว่านยกกะละมังออกไปล้างหน้าที่ลานบ้าน ที่นั่นมีโอ่งใบใหญ่ นางตักน้ำเย็นมาผสมในกะละมัง จู่ๆ ประตูห้องทางทิศตะวันตกก็เปิดออก ซูจิ่งตื่นแล้ว เขาเปลี่ยนเป็นเสื้อสั้นสีเทาที่มีรอยปะ ดูหมดจดเรียบง่าย แต่ความสง่างามกลับขาดหายไปหลายส่วนเมื่อไม่ได้สวมเสื้อคลุมยาว แวบแรกที่ซูจิ่งเห็นเด็กสาวกำลังล้างหน้าอยู่ในลานบ้าน ผ้าเช็ดที่ยังมีไอร้อนปิดบังใบหน้าของนางทั้งหมด ในชั่วพริบตาเขาคิดว่ากู้เย่ว์กลับมาแล้ว ทว่าซูหว่านตัวสูงกว่ากู้เย่ว์เล็กน้อย “พี่ใหญ่!” ซูหว่านที่ยืนอยู่กลางลานบ้านทักทายเขา ดวงตาของนางโค้งเป็นรูปจันทร์เสี้ยว และมีลักยิ้มเล็กๆ ซูจิ่งอดไม่ได้ที่จะยิ้มเมื่อเห็นรอยยิ้มนี้ “อืม” ซูจิ่งมองนางตั้งแต่หัวจรดเท้า ซูหว่านก็ก้มหน้ามองตัวเองเช่นกัน “ทำไมพี่ใหญ่ถึงมองข้าแบบนี้ ข้าดูไม่ดีเหรอ” “ดูดี เหมาะสมมาก!” ด้วยรูปลักษณ์ของนาง ไม่ว่าสวมใส่อะไรก็ดูดี แต่คำว่าเหมาะสมของเขาหมายถึงขนาดที่พอดี แน่นอนว่ายิ่งซูหว่านแต่งตัวสดใส ก็ยิ่งโดดเด่นงดงาม “เมื่อคืนนอนหลับสบายไหม?” สองพี่น้องคุยกันในลานบ้าน “สบายดีมากเลย!” ต่อมา พี่น้องคนอื่นๆ ในตระกูลซูก็ทยอยตื่นขึ้น ต่างพากันพับแขนเสื้อเตรียมกินข้าวแล้วออกไปทำงาน ซูหว่านทักทายพวกเขาทีละคน พวกเขาก็ขานรับตอบกลับมา แต่ท่าทียังไม่สนิทสนมเท่าใดนัก มีเพียงซูอี้ที่พูดเพิ่มอีกสองสามคำ “หวานหว่านตื่นเช้ามาก ขยันจริงๆ!” “พี่ห้าก็ตื่นเช้าเหมือนกัน!” พี่รองพี่สามพี่ห้ารู้สึกประหลาดใจกับการเปลี่ยนแปลงของนาง พวกเขาไม่คิดว่านางจะใส่เสื้อผ้าเก่าๆ ที่กู้เย่ว์ทิ้งไว้ได้ ซูอวิ๋นเดินออกจากห้องเป็นคนสุดท้าย เมื่อเห็นซูหว่าน เขาก็ชะงักไปครู่หนึ่ง เพราะนั่นเป็นเสื้อผ้าของกู้เย่ว์ แต่เมื่อซูหว่านหันมาทักทายเขา ใบหน้าที่ยิ้มแย้มของเขาก็หุบลงทันที “พี่สี่!” “ทำไมเจ้าถึงใส่เสื้อผ้าของเย่ว์เย่ว์?” ทันทีที่อ้าปาก ก็ตั้งคำถาม ทำเอาพ่อซูแม่ซูเดินออกมาจากในครัว พ่อซูตำหนิซูอวิ๋นอย่างรุนแรง “อาอวิ๋น ทำไมลูกถึงพูดกับน้องแบบนี้ ยังไม่รีบขอโทษหวานหว่านอีก!” “ข้าแค่ถามว่าทำไมนางถึงใส่เสื้อผ้าของเย่ว์เย่ว์ ไม่ได้พูดอะไรผิดสักหน่อย” ซูอวิ๋นใจร้ายจริงๆ เมื่อวานซูหว่านกลับมามือเปล่า เขาไม่ได้สังเกตเลยหรือ? แต่น้ำเสียงของเขาก็แย่จริงๆ แหละ “หวานหว่านไม่ได้เอาอะไรกลับมาเลย นางไม่ใส่เสื้อผ้าของเย่ว์เย่ว์ แล้วจะใส่เสื้อผ้าของใคร” ซูจิ่งพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม เมื่อวานที่ซูหว่านกลับมา ก็มีเพียงชุดเดียวที่สวมใส่อยู่เท่านั้น เครื่องประดับหรือปิ่นปักผมก็ถูกถอดออกหมด นางไม่ได้นำสิ่งใดมาจากตระกูลกู้เลย ซูหว่านยังคงยิ้ม ไม่ได้โกรธเลย แต่นางเริ่มวางแผนในใจ “พี่สี่ คุณหนูกู้อยากได้สิ่งใด ก็ย่อมได้ จะเป็นเครื่องประดับ ผ้าไหมแพรพรรณ หรืออาหารเลิศรส ตระกูลกู้เป็นตระกูลที่ร่ำรวยอันดับต้นๆ ในอำเภอชิงเหอ นางกลับไปที่ตระกูลกู้แล้ว สิ่งของที่ข้าเคยใช้ หากนางพูดว่าไม่ต้องการ ก็แค่โยนทิ้ง แต่ข้าทำแบบนางไม่ได้ หากไม่ใส่เสื้อผ้าของนาง พี่สี่จะให้ข้าออกไปพบหน้าผู้คนได้อย่างไร” ซูหว่านกำลังบอกซูอวิ๋นถึงความแตกต่างระหว่างตนกับกู้เย่ว์ในตอนนี้ คนทางนั้นไม่ได้ขาดแคลนอะไรเลย ไม่จำเป็นต้องให้เขามาคอยกังวลเรื่องการกินการอยู่ของนาง “แล้วต่อให้จะเก็บเสื้อผ้าเหล่านั้นไว้ นางก็คงจะไม่ชอบหรอก” ต่อให้พูดจาแทงใจดำของนาง กู้เย่ว์ก็จะไม่มีทางกลับมาที่ตระกูลซูอีก ถึงจะกลับมาที่บ้านหลังนี้อีกครั้ง แต่กู้เย่ว์ก็จะไม่กลับมาที่ตระกูลซูในฐานะซูเย่ว์อีกแล้ว รีบตื่นเสียที! “เหลวไหล สิ่งที่นางตัดใจไม่ได้ที่สุดก็คือพี่น้องอย่างพวกเราต่างหาก!” ซูอวิ๋นได้ยินนางพูดว่ากู้เย่ว์จะไม่กลับมา เขาไม่เห็นด้วย รีบโต้กลับทันที ดวงตาของเขาแดงก่ำด้วยความน้อยใจ “นางกลับมาแน่นอน แต่นางจะใช้แซ่กู้ตลอดไป ไม่ใช่แซ่ซู คุณหนูกู้ช่างน่าอิจฉาจริงๆ ตัวนางไม่อยู่แล้ว แต่ก็ยังมีคนคิดถึงนางมากมาย ไม่เหมือนข้า หลังจากที่ฮูหยินกู้รู้ว่าข้าไม่ใช่ลูกสาวแท้ๆ ของนาง นางแทบจะไล่ตะเพิดข้าออกมาทันที!” ซูหว่านเริ่มใช้วาจาแดกดัน การสร้างภาพลักษณ์ให้ดูน่าสงสารใช้ได้ผลเลยทีเดียว แน่นอนว่าคำพูดแดกดันเรียกคะแนนความน่าสงสารได้จริงๆ ตอนนี้ทุกคนในลานบ้านต่างสะดุดกับประโยคสุดท้าย “หวานหว่าน พี่สี่ของเจ้าพูดจาไม่เป็น เจ้าอย่าถือสาเขาเลย” ซูจิ่งเห็นว่าซูหว่านอารมณ์ผิดปกติ จึงรีบปลอบใจนาง แต่ซูหว่านยังคงพูดต่อ “ฮูหยินกู้บอกว่าข้าใช้ชีวิตของคุณหนูกู้มาสิบกว่าปีแล้ว ก็ควรจะรู้สึกพอ ทั้งยังสั่งห้ามไม่ให้ข้าไปวนเวียนต่อหน้าคุณหนูกู้ เพราะจะทำให้นางรู้สึกเศร้าใจ นางบอกว่าทุกครั้งที่เห็นข้า ก็จะนึกถึงเย่ว์เย่ว์ของนางที่ต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบากในชนบทมานาน นางรู้สึกไม่ยุติธรรม!” ซูหว่านแสดงออกว่าถึงความทุกข์ใจ นางไม่ได้พูดโกหก คำพูดเหล่านี้ ฮูหยินกู้เคยพูดไว้ โดยเฉพาะหลังจากที่ได้เห็นสภาพแวดล้อมที่กู้เย่ว์เติบโตมา นางก็โทษตัวเองที่ค้นพบความจริงช้าเกินไป ทำให้ลูกสาวแท้ๆ ของนางต้องตกระกำลำบากอยู่ข้างนอก ยิ่งคิดนางก็ยิ่งรู้สึกไม่ยุติธรรม พาลรู้สึกว่าเจ้าของร่างเดิมขัดหูขัดตา เจ้าของร่างเดิมก็เจ็บปวดกับคำพูดเหล่านี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนนางทนไม่ไหว โมโหจนกระอักเลือดตาย เวลานี้ทุกคนต่างนิ่งเงียบ มองเผินๆ นางใช้ชีวิตสุขสบายมานับสิบปี ควรจะเป็นผู้ที่ได้รับประโยชน์ แต่เมื่อเทียบกันแล้ว นางกลับต้องคับข้องใจมากกว่ากู้เย่ว์เสียอีก เห็นอยู่ชัดๆ ว่าการสลับตัวเป็นความผิดของคนอื่น แต่นางกลับถูกกระทำเหมือนเป็นคนผิด ทั้งสองฝ่ายต่างรังเกียจนาง ไม่เห็นหัวนาง ทั้งๆ ที่นางคือผู้เคราะห์ร้าย เหตุใดทุกคนถึงไม่ชอบนาง? เห็นดังนั้น ซูหว่านจึงรีบตีเหล็กตอนร้อน “ถ้าตอนนั้นไม่ได้ถูกสลับตัวกัน บางทีข้าอาจจะมีความผูกพันกับท่านพ่อท่านแม่และพี่ๆ แบบนั้นก็ได้!” น้ำเสียงน้อยใจของนางทำให้พ่อแม่และพี่ๆ รู้สึกเจ็บปวด ซูอวิ๋นรู้สึกผิดขึ้นมาทันที ทุกคนมองซูหว่าน ซูหว่านพยายามยิ้ม แต่รอยยิ้มของนางเต็มไปด้วยความขมขื่นและความสิ้นหวัง ยิ่งดูน่าสงสารมากขึ้น ท้ายที่สุดพ่อซูก็เอ่ยขึ้นว่า “เย่ว์เย่ว์กลับไปที่ตระกูลกู้แล้ว ต่อไปก็ไม่ต้องกังวลเรื่องความเป็นอยู่อีกแล้ว พวกเจ้าไม่ต้องเป็นห่วงนาง พ่อแม่ของนางจะรักนางมาก ตอนนี้หวานหว่านก็กลับมาที่บ้านตระกูลซูของเรา บ้านของเรามีลูกสาวแค่คนเดียว นอกจากครอบครัวของเราแล้ว ก็ไม่มีใครคอยปกป้องนาง พ่อหวังว่าตอนที่พ่อแม่ไม่อยู่บ้าน พวกเจ้าต้องคอยดูแลหวานหว่านให้ดี!”
ตั้งค่า
ประวัติการอ่าน
ขนาดตัวอักษร
-18
ปลดล็อกบทถัดไปโดยอัตโนมัติ
สารบัญ
ตอนที่ 1 ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ตอนที่ 2 ซูจิ่ง พี่ชายคนโต ตอนที่ 3 กลับถึงบ้านตระกูลซู ตอนที่ 4 หวานหว่านก็อยากที่จะเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวนี้ ตอนที่ 5 คุณหนูบอบบาง ตอนที่ 6 ไม่สามารถสั่นคลอนสถานะของเย่ว์เย่ว์ในใจได้ ตอนที่ 7 แดกดัน ตอนที่ 8 ช่วยหรือยุ่ง? ตอนที่ 9 ตกเป็นเป้าสายตาของชาวบ้าน ตอนที่ 10 ไม่ท้องเสียเหรอ? ตอนที่ 11 ความพยายามที่ไร้ผล ตอนที่ 12 ในที่สุดบ้านเราก็มีคนทำอาหารอร่อยกว่าพี่แล้ว ตอนที่ 13 ทำไมพี่ถึงได้ใจดีขนาดนี้ appตอนที่ 14 ไม่ได้เป็นคนเห็นแก่ตัว appตอนที่ 15 โชคร้าย appตอนที่ 16 ตีสนิท appตอนที่ 17 อับอายขายหน้าไปหมด appตอนที่ 18 ทำเอาเขาทึ่งไปเลย appตอนที่ 19 แขกไม่ได้รับเชิญ appตอนที่ 20 ไม่มีทางรับความช่วยเหลือจากตระกูลกู้ appตอนที่ 21 appตอนที่ 22 appตอนที่ 23 appตอนที่ 24 appตอนที่ 25 appตอนที่ 26 appตอนที่ 27 appตอนที่ 28 appตอนที่ 29 appตอนที่ 30 app
เพิ่มในชั้นวางหนังสือ
ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น
Joyread
บทก่อนหน้า บทต่อไป
ทรัพยากร
ติดตามพวกเรา
Joyread
UNION READ LIMITED
Room 1607, Tower 3, Phase 1 Enterprise Square 9 Sheung Yuet Road Kowloon Bay Hong Kong
ลิขสิทธิ์ © Joyread สงวนลิขสิทธิ์