ตอนที่ 2

หันกลับไป ยิ้มกับครก อย่างน้อยก็มีวัตถุดิบสำหรับโขลกพริกแกงละว้า หั่นข่าตระไคร้เตรียมไว้ หยิบลูกมะกรูดมาปอกเอาเปลือกสีเขียวออกบางๆหั่นฝอยเตรียมไว้ คว้าพริกกับเครื่องเทศมาโขลกเสียงโขลกพริกแกงดังลั่นวังหลวง หันกลับไปพลิกของทอดที่กำลังสุกเหลืองด้านหนึ่งให้อีกด้านหนึ่งลงไปทอดบ้าง หั่นตะไคร้ลงไปทอดที่หลังเพราะตะไคร้จะสุกก่อนหากใส่ไปพร้อมกันจะต้องไหม้แน่ๆ โขลกพริกแกงจนละเอียด สีแดงสดยกไม่ตีพริกขึ้นมาสูดดมกลิ่นหอม เสร็จแล้วก็ใช้กระชอนที่สานจากไม้ไผ่ช้อนเอาของทอดสีเหลืองทองที่กรอบนอกนุ่มในพร้อมกับตะไคร้ที่เหลืองสวยเช่นกันขึ้นมาสะเด็ดน้ำมันรินน้ำมันออกจากกระทะ เหลือน้ำมันนิดหน่อย ใส่พริกแกงที่โขลกลงไปผัด เสียงซ่าาดั่งๆทำเอาอะดีนาลีนพุ่งปรี๊ด คราวนี้เองที่ป้าตื้อมาชะโงกมองที่หน้าต่าง “ฮัดชิ้ว หืมมม” “เป็นอย่างไรป้าหอมไหม”ศรีไพรถามยิ้มๆ “สิ่งนี้เรียกอะไรที่เจ้ากำลังผัดอยู่นั่น” ป้าตื้อถามด้วยความอยากรู้ “อ่อ นี่คือพริกแกง” “ไม่มีพิษแน่ใช่ไหมฝ่าบาท เกรงว่าจะต้องพิษจึงไม่ยอมเสวย”ศรีไพรขมวดคิ้ว “อ้าวเหรอ นึกว่าอาหารไม่ถูกปาก” “นั่นก็มีส่วนอย่างมากฝ่าบาทเกรงว่าจะมีคนวางยาพิษเลยยอมอด แต่รู้ไหม ว่าท่านหมอพูดว่านั้นเพราะไม่มีเครื่องเสวยที่ทำให้ฝ่าบาทอยากเสวยมากกว่า” ป้าตื้อพูดไม่หยุด ตาก็มองสิ่งที่ศรีไพรกำลังลงมือปรุงน้ำตาลนิดเต้าเจี้ยวหน่อย ใส่เห็ดหอมหั่นลงไปจนเห็ดหอมสุกจึงนำของทอดสีเหลืองทองกับตะไคร้ทอดกรอบลงไปคลุกเคล้ายกกระทะออกจากเตา ใส่ใบกะเพราลงไปเป็นอันเสร็จพิธี หอมไปทั่วห้องเครื่อง เหล่านางในห้องเครื่องมาชะโงกมองว่ามันคือเครื่องเสวยที่มีชื่อว่ากระไร ศรีไรตักผัดเผ็ดใส่จานเงินหาฝามาปิดครอบไว้ ยกวางในถาด ตักข้าวสาลีที่หุงร้อนๆ ในหม้อใส่ถ้วยสองใบวางข้างผัดเผ็ดในถาด “เสิร์ฟร้อนๆ” “เครื่องเสวยนี้มีชื่อว่าอย่างไร” “ผัดเผ็ด” ป้าตื้อพยักหน้ากับนางในห้องเครื่องที่รีบยกเครื่องเสวยไปถวายฮ่องเต้ “เดี๋ยวแน่ใจหรือว่าจะถวายเครื่องเสวยชนิดนี้” “ตาแก่ อยู่เฉยๆ เสียข้าเห็นว่าเครื่องเสวยที่นางทำกลิ่นหอมชวนให้น้ำลายสอเรื่องอื่นค่อยว่ากันอีกที พวกเรากำลังเข้าตาจน” ลุงซุนถอนหายใจ ศรีไพรเช็ดมือที่เพิ่งจะล้างกับผ้ากันเปื้อนที่มัดไว้ที่เอว “ถ้ามีอะไรผิดพลาดฉันรับผิดชอบเพียงคนเดียวลุงก็บอกไปว่าฉันดื้อไม่ยอมเชื่อฟังลุง”ป้าตื้อส่ายหน้าไปมา “เอาเหอะน่าตาแก่นางหวังดีน่า บางทีฝ่าบาทอาจเลือกเครื่องเสวยของนางก็ได้” “แล้วเฟยฟางเล่านางปรุงเครื่องเสวยที่ชื่อว่าอะไร” ลุงซุนเอ่ยปากถามนางในห้องเครื่องอีกคนนามว่าอี้เอ่อร์ “ป่านนี้นางยังยืนนิ่งไม่รู้ว่าจะปรุงสิ่งใดถวาย” อี้เอ่อร์ตอบเบาๆ นางในห้องเครื่องยกถาดผัดเผ็ดและข้าวร้อนๆ สาวเท้ายังห้องบรรทมของฮ่องเต้หรวนหนิงหลง宁龙 (หนิงหลง) = มังกรแห่งความสงบเสงี่ยม “กลิ่นอะไร” หรวนหนิงหลง ลุกขึ้นจากแท่นบรรทมในท่านอนหงายหยียดยาวยกมือก่ายหน้าผากหลับตานิ่งกับท้องที่เลิกร้องไปนานแล้ว ขันทีชราเป่ยกงกงรีบประสานมือท่าทีนอบน้อม “ฝ่าบาทนางในห้องเครื่องนำเครื่องเสวยชุดใหม่มาแล้วคาดว่าจะเป็นของสิ่งนี้ที่ส่งกลิ่นข้าน้อยเห็นว่าฝ่าบาททรงบรรทมจึงไม่ได้ปลุก”หนิงหลงถอนหายใจ “ยกเข้ามา ทดสอบพิษ” เป่ยกงกงโบกมือให้นางในห้องเครื่องที่ยกถาดเข้ามาวาง แล้วเอื้อมมือเปิดฝาครอบผัดเผ็ดออกช้าๆ กลิ่นหอมเผ็ดร้อนขจรขจายไปทั่วห้องบรรทม หนิงหลงจ้องมองสิ่งที่อยู่ในจานเงิน ไม่อาจบอกได้ว่าคือสิ่งใดกันในเมื่อถูกบั้งและทอดจนเป็นสีเหลืองทอง เป่ยกงกงคีบเอาผัดเผ็ดเข้าปาก ดวงตากลับเบิกโพลงด้วยรสแปลกลิ้น รสสัมผัสเผ็ดร้อนทว่าลงตัวทั้งกลมกล่อมหอมหวน จนทำให้น้ำลายไหลได้เลยทีเดียว เคี้ยวช้าๆ แล้วกลืน รสดีเสียจนสึกเสียดายที่คีบชิ้นเล็กไปอยากจะลิ้มรสอีกสักคำ ความเผ็ดร้อนในปากบวกกับกลิ่นหอมของเครื่องเทศในพริกแกงกับกลิ่นฉุนของใบกะเพราช่างพอเหมาะพอเจาะส่งผลให้ความกรอบนุ่มของทอดสีเหลือง ชูรสได้ดี รสเผ็ดทำให้เจริญอาหาร แต่ไม่วายสงสัยว่าของสิ่งนี้ทำจากวัตถุดิบใดกันแน่ ถึงจะใกล้เคียงกับเนื้อหมูแต่ก็ไม่ใช่ซะทีเดียว “ไม่มีพิษพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาทจะเสวยเลยหรือไม่” “เลื่อนถาดมาตรงหน้าข้า” สูดดมกลิ่นหอมจนน้ำลายสอแต่ไม่อาจแสดงกิริยาว่าหิวจนตาลายออกมาด้วยเป้นคนที่มักจะสะกดกลั้นความรู้สึกได้ดีตามประสานักรบนั่นเอง หนิงหลงทรุดกายลงนั่งบนเก้าอี้ เป่ยกงกงเลื่อนถาดอาหารตรงหน้าส่งตะเกียบเงินให้อย่างนอบน้อม หนิงหลงคีบผัดเผ็ดชิ้นหนึ่งใส่ปาก รู้สึกถึงความเผ็ดที่ปลายลิ้น พอเคี้ยวจึงสัมผัสรสกลมกล่อมความกรอบนอกนุ่มในยิ่งทำให้รสสัมผัสมีความน่าพิศวง ความเผ็ดในตอนท้ายบวกกับกลิ่นหอมแทรกซึมไปทั่วปากพริกแกงไม่ได้เผ็ดจี๊ดจ๊าดแต่ก็เผ็ด พอรู้สึกเผ็ดก็พุ้ยข้าวร้อนๆ ใส่ปากแก้เผ็ดยิ่งอร่อย จนแทบลืมเคี้ยว เป่ยกงกงยิ้มแก้มปริ เดินมากระซิบกระซาบกับนางในห้องเครื่อง แล้วโบกมือให้นางกลับไป “รสดี จริงๆ เครื่องเสวยนี่มีชื่อว่าอะไร” หนิงหลง มองหาถ้วยข้าวอยากจะเพิ่มข้าวอีก เป่ยกงกงรู้ทันรีบยกถ้วยข้าวร้อนๆ มาวางตรงหน้า นึกชื่นชมคนจัดถาดอาหารที่เพิ่มข้าวมาราวกับจะรู้ว่ามื้อนี้ฝ่าบาทจะเสวยข้าวถึงสองถ้วย “อ่า นางในห้องเครื่องที่ยกถาดอาหารมานางเรียกมันว่า…ผัดเผ็ด”
ตั้งค่า
ประวัติการอ่าน
ขนาดตัวอักษร
-18
ปลดล็อกบทถัดไปโดยอัตโนมัติ
สารบัญ
ตอนที่ 1 ตอนที่ 2 ตอนที่ 3 เฟยฟาง ตอนที่ 4 ผู้งดงามและมีน้ำใจ ตอนที่ 5 ไม่เป็นไรข้ามาแล้ว ตอนที่ 6 เคล็ดวิชา appตอนที่ 7 ศิษย์เอก appตอนที่ 8 อี้เอ่อร์ appตอนที่ 9 หลักฐานการมีตัวตน appตอนที่ 10 แครอทโง่ๆ appตอนที่ 11 ทางกลับบ้าน appตอนที่ 12 แตงโมโง่ๆ appตอนที่ 13 แตงโมไม่โง่ appตอนที่ 14 สรรเสริญ appตอนที่ 15 ช่างเหอะ appตอนที่ 16 รังสรรค์ appตอนที่ 17 พบ appตอนที่ 18 เหมันต์ไม่ช่วยอะไร appตอนที่ 19 รอยยิ้มยามอิ่มหนำ appตอนที่ 20 นี่คือศรีไพร appตอนที่ 21 สิ่งนี้คือของหวาน appตอนที่ 22 หมูปิ้งข้าวเหนียวร้อนๆไหมคะ appตอนที่ 23 เจ็บแทน appตอนที่ 24 เชฟใหญ่แหละ appตอนที่ 25 ทำหน้าที่เชฟ appตอนที่ 26 ความวุ่นวาย appตอนที่ 27 นินทา appตอนที่ 28 ท่านอย่าเอาไปเล่าต่อนะ appตอนที่ 29 ความลับระหว่างเรา appตอนที่ 30 เรื่องก็เป็นแบบนี้ appตอนที่ 31 ปิ่น appตอนที่ 32 อย่างน้อยก็ได้ปรับทุกข์ appตอนที่ 33 ปิ่นแทนใจ appตอนที่ 34 อิจฉา appตอนที่ 35 พิชซ่า appตอนที่ 36 บทนำ appตอนที่ 37 คนสำคัญ appตอนที่ 38 นางเป็นใคร appตอนที่ 39 มันยาก appตอนที่ 40 รอดตัว appตอนที่ 41 สวรรค์สร้าง appตอนที่ 42 ยอมรับได้ appตอนที่ 43 เรื่องที่ต้องพูด appตอนที่ 44 ไม่เชื่อใจใคร appตอนที่ 45 ก็ควรจะเป็นนาง appตอนที่ 46 แผนเถอะ appตอนที่ 47 เซอร์ไพรส์ appตอนที่ 48 เค้กหวาน appตอนที่ 49 เปิด appตอนที่ 50 แล้วเราก็เข้าใจกัน appตอนที่ 51 กลับ appตอนที่ 52 จบบริบูรณ์ appตอนที่ 53 จบบริบูรณ์ตอนพิเศษ appตอนที่ 54 ความสุขกำลังมา appตอนที่ 55 หอมหวาน app
เพิ่มในชั้นวางหนังสือ
ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น
Joyread
บทก่อนหน้า บทต่อไป
ทรัพยากร
ติดตามพวกเรา
Joyread
FINLINKER TECHNOLOGY LIMITED
69 ABERDEEN AVENUE CAMBRIDGE ENGLAND CB2 8DL
ลิขสิทธิ์ © Joyread สงวนลิขสิทธิ์