ตอนที่ 4 แกล้งเป็นแฟนของคุณชายฉิง

“ไม่...ไม่เป็นไรค่ะ” แน่นอนว่าค่าตอบแทนหนึ่งร้อยล้านน่าหลงใหลมาก แต่สิ่งที่หลีอวิ่นเอ๋อร์ต้องการคือฉิงมั่วหันต่างหาก! เธอส่ายศีรษะปฏิเสธพลางยิ้มอย่างอ่อนโยน “วันนั้น หากเป็นคนอื่นที่ตกอยู่ในอันตราย ฉันก็ต้องช่วยเหมือนกันค่ะ อีกอย่าง เหตุการณ์แบบนั้น ถ้าเป็นคนอื่นก็คงไม่มีทางนิ่งดูดายเหมือนกันค่ะ” “ถ้าคุณไม่ต้องการค่าตอบแทน คุณสามารถให้พ่อของคุณติดต่อผู้ช่วยของผมโดยตรงได้เลย สำหรับเรื่องโครงการต่างๆ ของบริษัท ผมจะให้ความสำคัญกับฟู่อานกรุ๊ปเป็นอันดับแรก” ฟู่อานกรุ๊ปเป็นบริษัทของพ่อหลีอวิ่นเอ๋อร์ แก้มละเอียดลออที่แต่งหน้าบางๆ ของหลีอวิ่นเอ๋อร์เปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มที่สุภาพ “ขอบคุณสำหรับความปรารถนาดีของคุณชายฉิง แต่ว่าไม่เป็นไรจริงๆ ค่ะ” เมื่อเธอพูดจบ โทรศัพท์มือถือของฉิงมั่วหันก็ดังขึ้นทันที “ขอโทษนะ ผมรับโทรศัพท์สักครู่” ฉิงมั่วหันมองที่หน้าจอโทรศัพท์ เป็นซ่งฉือผู้ช่วยของเขาโทรมา เขารับแล้วถามว่า “มีอะไร” “บอสครับ ผมไร้ความสามารถ ไม่อาจทำงานที่คุณสั่งให้สำเร็จลุล่วงได้ คุณนายฉิงพาตัวคุณเมิ่งกลับไปที่บ้านเก่าแล้วครับ” ซ่งฉือเล่าเหตุการณ์ให้ฉิงมั่วหันฟังอย่างละเอียด “ทำไมจู่ๆ คุณย่าถึงไปที่นั่นได้” “ผมเองก็ไม่แน่ใจครับ” ซ่งฉือเองก็แปลกใจว่าทำไมคุณนายฉิงถึงได้รับข่าวรวดเร็วเช่นนี้ เมื่อนึกถึงจุดนี้ ซ่งฉือรีบพูดขึ้น “แต่เท่าที่ฟังจากเจตนาของคุณนายฉิงแล้ว คงต้องการให้บอสแต่งงานกับคุณเมิ่งครับผม” ได้ยินดังนั้น ฉิงมั่วหันขมวดคิ้วอย่างหนัก พร้อมพูดอย่างเย็นชา “จะบ้าหรือไง” เขาวางโทรศัพท์ แล้วมองหน้าจอทำท่าทางครุ่นคิด หลีอวิ่นเอ๋อร์ที่นั่งตรงข้ามมองใบหน้าอันหล่อเหลาของฉิงมั่วหัน เธอรู้สึกใจเต้นแรง นานมากกว่าจะทำจิตใจให้สงบลงได้ ก่อนมาที่นี่ แม่ของเธอกำชับนักหนาว่าให้เธอใช้ ‘แผนแสร้งปล่อยเพื่อจับ’ ให้คุณชายฉิงตายใจ จึงจะสามารถดึงดูดความสนใจของเขาได้ หลีอวิ่นเอ๋อร์จำคำสอนของแม่ได้ดี เธอจึงใช้โอกาสนี้พูดกับฉิงมั่วหันว่า “เห็นคุณชายฉิงปลอดภัยก็พอใจแล้วค่ะ “พอใจหรือ” “ใช่ค่ะ” หลีอวิ่นเอ๋อร์พยักหน้าเล็กน้อย ทำเป็นไร้เดียงสา “จริงๆ ทุกครั้งที่ฉันได้ช่วยเหลือผู้อื่น ฉันจะมีความรู้สึกพอใจเล็กๆ ค่ะ” จากคำพูดของเธอ ดูเหมือนว่าปกติแล้ว เธอช่วยเหลือผู้คนมามากมาย ในแวดวงสังคมชั้นสูงของหลานเฉิง ผู้คนต่างยกย่องว่าเธอเป็นหญิงงามอันดับหนึ่งที่ทั้งสวยและมีความสามารถ แม้ว่าธุรกิจตระกูลหลีจะถูกจัดอันดับอยู่ในลำดับท้ายๆ ของหลานเฉิง แต่ด้วยเสน่ห์ในตัวหลีอวิ่นเอ๋อร์ สามารถนำมาซึ่งโอกาสทางธุรกิจแก่ตระกูลหลีไม่น้อย ขณะนี้เอง บริกรเคาะประตู และเริ่มเสิร์ฟอาหาร “คุณชายฉิงคะ เราทานอาหารกันเถอะ ต้องขอโทษจริงๆ เดี๋ยวบ่ายโมงครึ่ง ฉันต้องไปสถานสงเคราะห์เด็กกำพร้าที่นอกเมืองค่ะ ถ้าหากไปสาย จะทำให้พวกเด็กๆ ผิดหวังค่ะ” ตระกูลหลีพยายามสร้างภาพลักษณ์ที่ยอดเยี่ยมให้แก่หลีอวิ่นเอ๋อร์ ไม่เพียงแต่บังคับให้เธอฝึกฝนศิลปะสี่แขนงตั้งแต่เด็ก ทั้งวาดภาพ กาพย์กลอน หมากล้อม และดนตรี ยังให้เธอทำการกุศลบ่อยๆ เพื่อเติมแต่งภาพลักษณ์ให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม เพื่อแสดงให้ฉิงมั่วหันเห็นข้อดีของตน เธอต้อง ‘แผนแสร้งปล่อยเพื่อจับ’ อีกครั้ง จึงบอกเขาว่าต้องไปสถานสงเคราะห์เด็กกำพร้า คงจะไม่พูดไม่ได้ว่า หลีอวิ่นเอ๋อร์นั้น ‘ยอดเยี่ยม’ มาก แต่ฉิงมั่วหันมักจะรู้สึกว่าหญิงสาวตรงหน้านี้ไม่ธรรมดาเลย จู่ๆ เขาก็นึกถึงคำพูดของซ่งฉือขึ้นมาได้ จึงถามเธอไปว่า “ในเมื่อคุณหลีเป็นคนที่ชอบช่วยเหลือผู้คน ไม่รู้ว่าพอจะช่วยผมสักเรื่องได้ไหมครับ” “อืม เรื่องอะไรคะ” “แกล้งเป็นแฟนของผมที” “แฟน?” หลีอวิ่นเอ๋อร์ใจเต้นแรง เธอคิดว่าเรื่องน่าเซอร์ไพรส์นี้มากะทันหันเกินไป รู้สึกว่ากลยุทธ์แสร้งปล่อยเพื่อจับของหม่ามี้ได้ผลดีเกินคาด เธอกลืนน้ำลาย มือขาวๆ กำตะเกียบ ผ่านไปหลายวินาทีจึงค่อยวางตะเกียบลง และถามอย่างขุ่นเคือง “คุณชายฉิง นี่มันหมายความว่ายังไงคะ” “ครอบครัวของผมจัดการเรื่องการแต่งงานให้ผม แต่ผมไม่เต็มใจ จึงอยากขอให้คุณหลีแกล้งเป็นแฟนผมหน่อย หลังจากเรื่องนี้สำเร็จ คุณบอกเงื่อนไขที่ต้องการมาได้เลยครับ” “แล้วทำไมถึงเป็นฉันคะ” หลีอวิ่นเอ๋อร์ข่มความตื่นเต้นในใจ พยายามถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “คุณหลีสามารถปฏิเสธได้นะครับ” ชายหนุ่มเหลือบมองเธอด้วยสายตาเรียบเฉย และพูดด้วยน้ำเสียงเนิบๆ “ฉัน...” หลีอวิ่นเอ๋อร์ลังเล ในที่สุดเธอยังคงไม่นิ่งพอ “ในเมื่อคุณชายฉิงพูดขนาดนี้ ฉันจะปฏิเสธได้อย่างไรคะ” เธอใฝ่ฝันจะได้เป็นผู้หญิงของฉิงมั่วหันอยู่แล้ว ตอนนี้โอกาสมาอยู่ตรงหน้า ถ้าหากปฏิเสธออกไป โอกาสดีๆ แบบนี้คงจะหาไม่ได้อีกแล้ว หารู้ไม่ว่า หลังจากที่เธอตอบรับฉิงมั่วหัน ริมฝีปากที่แสดงความดูหมิ่นของชายหนุ่มก็ยกขึ้นเล็กน้อย อย่างที่คิดไว้ เธอคนนี้ไม่ได้แตกต่างไปจากผู้หญิงคนอื่นๆ ที่พยายามวิ่งเข้าหาเขาเลย แม้แต่ฉิงมั่วหันก็ยังสงสัยว่า ที่หลีอวิ่นเอ๋อร์ช่วยชีวิตเขานั้น แท้จริงเป็นเรื่องบังเอิญหรือว่าเป็นแผนการที่ตั้งใจจัดวางเอาไว้กันแน่