ตอนที่ 3

“เออ... ก็ไปสิ แต่รถพ่อให้ครูเหนือยืมไปใช้ รถหนูพ่อเอาไปถ่ายน้ำมันเครื่อง ไปกับพี่เตเขานะ” เข้าแผนนายพิภพที่กำลังจะหาลูกเขยสักคนนั่นแหละ แต่เท่านี้ไม่สามารถทำอะไรอริสา หากเธอได้พูดแล้วว่าไม่ ก็คอยดูกันไป “ค่ะ” สีหน้าสุดแสนเย็นชายิ่งกว่าน้ำแข็งขั้วโลกเหนืออยู่ในสายตาของเตชิน เป็นธรรมดาที่เขาคงต้องมีไม่พอใจ และก็อยากจะรู้ว่าเธอจะแน่สักแค่ไหน จึงลุกขึ้นตามไป ซึ่งหญิงสาวกลับกลายเป็นคนละคน พอก้าวไปนั่งพับเพียบลงบนพื้นหน้าสุนัขตัวโปรด มันส่ายหางไปมาอย่างดีใจแม้ร่างกายไม่สู้ดี “ที่รัก.. แม่จะพาหนูไปหาหมอนะลูก” ทั้งน้ำเสียงและแววตาอ่อนโยน มือเล็กลูบไล้ขนสีบรอนซ์ทองสลวย มันก็ร้องครางอ้อนเจ้านาย เจ้าที่รักเป็นสุนัขสายพันธุ์ดีจากฟาร์มที่มีชื่อเสียงในเมืองโคราช อริสาตัดสินใจซื้อมันมาด้วยอารมณ์เบื่อเซ็ง ๆ เล่นอินเตอร์เน็ตแล้วพบเข้าโดยบังเอิญเห็นว่ามันน่ารักดี พอเลี้ยงไปจึงเกิดความรู้สึกเมตตา มันเติมเต็มชีวิตอันน่าเบื่อหน่ายในแต่ละวันให้มีสีสัน จนถึงทุกวันนี้ดันขาดมันไม่ได้สักวัน “อ้าว.. เดี๋ยวนี้น้องอริสมีลูกเป็นหมา?” คนถามเลิกคิ้วขึ้นมองร่างบางในเดรสคุณหนูนั่งราบอยู่บนพื้น เจ้าของบ้านตอบให้แทน “อย่างนั้นแหละ สองแม่ลูกรักกันปานจะกลืนกิน ตัวติดกันเป็นตังเม ไม่รู้วันไหนแต่งงานมีผัว จะนอนกับหมาหรือนอนกับผัว” ‘ผัว’ ย้ำให้ลูกสาวได้ยินแต่เธอก็ทำเป็นไม่สนใจ ไม่ต่อปากต่อคำกับพ่อเหมือนเคย แต่พูดกับหมา “ลูกเดินไม่ไหว เดี๋ยวแม่อุ้มหนูนะลูก” เจ้าหมาตัวโตกำลังแลบลิ้นน้ำลายเลอะเทอะไปหมด มันไม่สบายยังได้รับกำลังใจจากเจ้านายสาวที่ใจดีกับมันเสมอ แขนเรียวสอดเข้าช่วงท้องด้านหน้า ค่อย ๆ ยกเจ้าหมาเข้าหาอ้อมอก แนบไว้กับตัวอย่างนุ่มนวล “ให้ช่วยไหมคุณ?” คำถามของเตชินได้รับการตอบรับด้วยสายตาเย็นยะเยียบของคนที่ตวัดหางตามอง แน่ว่าการอุ้มสุนัขพันธุ์ใหญ่น้ำหนักกว่าสามสิบกิโลกรัมอย่างถูกวิธีเป็นสิ่งจำเป็น ด้วยความเคยชินกับการอุ้มเจ้าตัวแสบมาแต่เล็กจนโตเต็มวัย มันจึงไม่ใช่ปัญหา ใบหน้าสวยสะบัดกลับไปอย่างเชิดหยิ่ง ก่อนที่เธอจะเดินนำลิ่วไป เตชินส่ายหน้าไปมาอย่างเอือม ๆ ยกมือไหว้ลาเจ้าของบ้าน รับหน้าที่สารถีขับรถยนต์พาทั้งคนทั้งหมาไปโรงพยาบาลสัตว์ โรงพยาบาลสัตว์เอกชนบริการระดับมาตรฐาน มีคลินิกสัตว์เล็กใหญ่ครบวงจร อริสาเลือกที่จะมาใช้บริการที่นี่เป็นประจำ ตั้งแต่เจ้าที่รักรับวัคซีนเข็มแรก ซื้อของใช้จุกจิกของสุนัข ฝากเลี้ยง หรือแม้แต่นำสัตว์อื่น ๆ ที่ฟาร์มมารักษา หลังจากที่เจ้าที่รักนั่งซมซุกตักส่งเสียงครวญครางตลอดทางกว่ายี่สิบกิโลฯ เธอไม่ได้อยู่ในอารมณ์สนทนากับคนขับรถจำเป็น ถามคำก็ตอบคำจนชายหนุ่มต้องนั่งกุมพวงมาลัยไปเงียบ ๆ บรรยากาศชวนน่าอึดอัดของคนทั้งคู่ยังคงอยู่จนนั่งรอคิวในคลินิก ผู้ช่วยสัตวแพทย์สาวเข้ามาไถ่ถามอาการ “เจ้าที่รักเป็นอะไรมาคะ? คุณอริสา” “ที่รักซึม ตัวร้อนเป็นไข้ค่ะ” รีบตอบด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล ขณะนั่งกอดประคองกอดสุนัขในสภาพอิดโรยไว้บนตัก มันป่วยถึงขั้นว่าไม่มีอารมณ์วิ่งเล่นในสถานที่ที่มันชื่นชอบการทักทายสุนัขตัวอื่น ๆ ไปทั่ว และเจ้านายก็จะดุมัน “หมามันตัวร้อนได้ด้วยเหรอครับ?” คำถามของเตชินถูกมองค้อนขวับ ก่อนจะได้รับคำตอบให้หายข้องใจ “ได้สิคะคุณ น้องหมาที่เป็นไข้ส่วนใหญ่แล้วที่หูกับเท้าจะร้อนจัด ลองใช้มือหรือหลังมือของเราจับดูที่หูหรือที่เท้าของน้องหมาดูว่าร้อนมากไหม ให้ลองเทียบกับตัวเราดู โดยปกติแล้วหมาจะตัวอุ่นกว่า หรือจะใช้ปรอทวัดไข้วัดดูก็ได้ค่ะ” เตชินถึงกับร้องอ๋อ ให้สีหน้าคลายความสงสัยไม่มีอะไรค้างคาใจอีก “น้องมีอาการอะไรอีกไหมคะ? คุณอริสา อาเจียนไหม ทานข้าวได้ไหมคะ เป็นไข้มากี่วันแล้ว?” “ไม่อาเจียนค่ะ ทานข้าวได้อยู่แต่ทานได้น้อยลง ขนมไม่ค่อยจะกิน เมื่อวานมันไปเล่นน้ำฝน ตื่นเช้ามามีไข้ ไม่แน่ใจว่าเป็นไข้หวัดธรรมดาหรือเปล่า ฉันเลยรีบพามันมา เผื่อคุณหมอตรวจเลือดดูจะได้แน่ใจค่ะ” คนรักสัตว์ลอบยิ้มกับความเอาใจใส่ของลูกค้าขาประจำ ก่อนผายมือเชื้อเชิญ “พาเจ้าที่รักมาทางนี้เลยค่ะ” ผู้ชายตัวโตเตรียมให้ความช่วยเหลือเจ้าของหมาที่ทำท่าจะลุก ขณะที่เธอดันไม่เป็นมิตรเอาเสียเลย ใบหน้าสดสวยบึ้งตึงตลอดเวลา ยังออกคำสั่ง “คุณเตชินเฝ้ากระเป๋าฉันไปแล้วกัน” ชายหนุ่มย่นคิ้วเข้าหากัน เมื่อกระเป๋าสะพายหนังสีขาวถูกปลดจากบ่า ปลายนิ้วกรีดกรายดันมันไว้แนบติดกางเกงยีน เธอหลุบมองมันครั้งหนึ่งด้วยสายตาเฉียบคม “กรุณาให้ความสำคัญกับมันด้วย เพราะกระเป๋าฉันแพงมาก ขอบคุณค่ะ” ความหมายของเธอไม่ได้ประชดประชันเขาเลยเพราะกระเป๋าหนังจระเข้รุ่นนี้ก็ประมาณแสนกว่าบาทได้ ชายหนุ่มหน้ากระตุก จับมันวางไว้บนตักอย่างไม่ค่อยพอใจ ร่างบางค่อย ๆ หยัดกายลุกขึ้นพร้อมสุนัขซึ่งได้รับการโอบอุ้มอย่างนุ่มนวล มันรับรู้ได้ว่าข้างหน้ามีอะไร จึงเริ่มส่งเสียงครางด้วยความหวาดกลัวจับใจเหมือนทุกครั้งคราวเข้าห้องตรวจ ในห้องที่มีกลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อตลบอบอวลไปทั่ว พอผู้ช่วยสัตวแพทย์สาวเดินหลีกไปในอีกทางหนึ่ง ดวงตาคู่กลมโตส่ายมองหาคุณหมอ และโต๊ะตัวใหญ่สำหรับวางสุนัข พอดีกับที่สายตาเหลือบไปเห็น เจ้าของวงหน้าหล่อเหลาคมคายในชุดกาวน์แขนสั้นกำลังก้มหน้าอยู่กับแฟ้มและกระดาษกองหนึ่ง ไล่จากจมูกโด่งเป็นสันคม แม้เห็นใบหน้าของเขาเพียงเสี้ยวเดียว สัญชาตญาณของเธอบอกว่าพ่อคุณน่าจะเอาเรื่อง! “วางน้องหมาลงเลยครับ” เสียงทุ้มนุ่มละมุนผ่านหู ไม่ต่างจากนักร้องบอยแบนด์ยืนจับไมโครโฟน ลี้ดกีตาร์เท่ ๆ มีสาวกแม่ยกยืนกรี้ดคอแตก ก้อนเนื้อในอกสาวกระตุกไม่เป็นจังหวะทุกย่างก้าว เธอคงไม่มีทางเลือกที่จะถอยไปข้างหลัง
ตั้งค่า
ประวัติการอ่าน
ขนาดตัวอักษร
-18
ปลดล็อกบทถัดไปโดยอัตโนมัติ
เพิ่มในชั้นวางหนังสือ
ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น
Joyread
บทก่อนหน้า บทต่อไป
ทรัพยากร
ติดตามพวกเรา
Joyread
UNION READ LIMITED
Room 1607, Tower 3, Phase 1 Enterprise Square 9 Sheung Yuet Road Kowloon Bay Hong Kong
ลิขสิทธิ์ © Joyread สงวนลิขสิทธิ์