ตอนที่ 6 ไร้เดียงสา

12.00 "อ้าวคุณหมอ ทานข้าวหรือยังคะ" เปิดประตูเข้ามาก็เจอพยาบาลกำลังเช็กน้ำเกลือและวัดความดันให้เธออยู่ ส่วนคนบนเตียงก็หลับไม่รู้เรื่อง คงเพราะอ่อนเพลียจากการผ่าตัด "ยังเลยครับ ว่าจะแวะมาดูคนไข้สักหน่อย " "เพิ่งหลับไปเมื่อกี้นี้เองค่ะ น้องคุยเก่งมากเลยนะคะ " ไม่ใช่แค่คุยเก่ง ยังช่างถามช่างเซาะไปเรื่อย บางครั้งก็ต้องปรามดุไปบ้าง พู่ไหมอยู่ในวัยเรียนรู้ กำลังเข้าสู่สังคมที่หลากหลาย มองแวบเดียวก็รู้ว่าเธอไม่ทันสังคมสมัยใหม่ เธอถูกเลี้ยงมาแบบปิดกั้น พูดง่ายๆคือไม่ทันคน เป็นผู้หญิงซื่อ อยากรู้ก็ถามไม่ได้คิดอะไร แต่บางครั้งคำถามของเธอก็ทำให้หงุดหงิด "ความดันปกติไหม " "ทุกอย่างปกติค่ะ คุณหมอไปทานข้าวก่อนก็ได้นะคะ " "ไม่เป็นไรเดี๋ยวผมจะตรวจอาการคนไข้สักหน่อย" "ได้ค่ะ พักบ้างนะคะคุณหมอ" ที่จริงอาการของเธอไม่น่าห่วงแล้ว อีกไม่กี่วันก็กลับไปพักฟื้นที่บ้านได้ป่านนี้คอนโดคงสะอาดเรียบร้อยพร้อมเข้าอยู่ ...................... 2วันต่อมา "หมอหนูเจ็บ" "ต้องพยายาม จับแขนหมอแล้วค่อยๆ ลุก" พยายามทำตามที่หมอบอก มือทั้งสองยึดแขนหมอไว้แน่นเพื่อใช้เป็นหลักพยุงร่างตัวเอง พยายามฝืนความเจ็บแปล๊บๆ ที่แผล เจ็บจนรู้สึกชาไปทั่วบริเวณ ไม่คิดเลยว่าจะทรมานขนาดนี้ ต้องหัดลุกเดินเพราะสายฉี่กับสายน้ำเกลือถูกถอดออกแล้ว เป้าหมายแรกคือเดินไปเข้าห้องน้ำ โดยมีคุณหมอช่วยพยุง "อ๋อย เจ็บจัง หมออุ้มไม่ได้หรือคะ เสื้อหมอยับหมดแล้วนะ กว่าจะเดินถึงห้องน้ำฉี่ก็ราดพอดี" ฉันอยู่ในท่าห้อยขาลงจากเตียง แค่ไม่กี่ก้าวก็จะถึงห้องน้ำ "ไม่ได้ ต้องเดินไปเอง ให้มันยับไป ให้อุ้มแล้วเมื่อไหร่จะหาย " "อย่าดุสิคะ " "อย่าทำหน้าแบบนี้อีก อายุเท่าไหร่แล้วเรา" รู้แล้วจะถามทำไม ประวัติคนไข้ก็มี "สิบห้าค่ะ " "สมองน่ะหรือสิบห้า อันนี้หมอเชื่อนะ" "หมอ" ฉันแผดเสียงใส่ไม่ดังเท่าไหร่ หลอกด่ากันนี่ ฉันน่ะสิบแปดย่างสิบเก้าแล้วย่ะ ใช่สิใครจะเก่งเหมือนหมอ ความคิดอเมซิ่งแบบนั้น ฉันก็แค่เด็กโรงเรียนวัดไม่เหมือนหมอจบอินเตอร์นานาชาติ ดีกรีนักเรียนนอกค่าเทอมหลักหมื่นหลักแสน "อะ พร้อมหรือยัง ค่อยๆ นะ ระวังล้ม" "ถ้าล้มละคะ" "หมอรอรับอยู่" แล้วทำไมต้องให้ระวังในเมื่อรอรับอยู่ "เอานะ 1 2 3 " "ฮึบ โอ๊ย" ฉันก้าวลงจากเตียงโดยมีหมอคอยประคองอยู่ข้างๆ รู้สึกขาไม่ค่อยมีแรงก็เลยทิ้งตัวไปที่หมอเต็มๆ ขอบตาร้อนผ่าวเพราะรู้สึกเจ็บแผล "พยายามสิพู่ไหม " "ขาไม่มีแรงอะหมอ " พยายามแล้วจริงๆ เจ็บจนชาลามยันขาทำให้ไม่มีแรง กลายเป็นว่าตอนนี้ฉันอยู่ในอ้อมกอดหมอ รู้สึกอุ่นแถมยังได้กลิ่นหอมอ่อนๆ แบบเฉพาะคุณหมอด้วย "จะไปถึงห้องน้ำไหมวันนี้ " "หมออุ้มก่อนได้ไหม ตอนกลับหนูเดินเองก็ได้" ....................................... "หมอคะ ทำไมเป้าหมอตุงๆ แบบนั้นละคะ" เด็กบื้อ ถามแต่ละอย่าง ไม่ให้ตุงได้ยังไงก็เนื้อตัวนุ่มนิ่มของเธอเบียดเสียดผมอยู่ตลอด แล้วหน้าที่พาคนไข้หัดเดินก็ไม่ใช่หน้าที่ผม ต้องทำเพราะไม่มีใครทำได้นอกจากผม ผมเป็นหมอเจ้าของเคสและเจ้าของเธอ ก็เลยต้องทำ "ไม่รู้สิ อยู่ใกล้เด็กทีไรจะเป็นแบบนี้ทุกครั้ง" ไม่อยากเชื่อว่าไม่รู้เรื่องจริงๆ ชักเริ่มห่วงซะแล้วสิ เข้ามหาวิทยาลัยแล้วยังเด๋อด๋าแบบนี้พวกผู้ชายเลวๆ คงชอบใจน่าดู แค่นึกถึงก็รู้สึกหวงขึ้นมาเสียดื้อๆ "เด็กทารกก็ตุงหรือคะ" "ตุงเฉพาะกับเด็กบางคน ไม่รู้จริงๆเหรอ " "รู้อะไรคะ ทำไมต้องรู้" หน้าซื่อตาใสไม่มีอะไรแอบแฝง จากนี้คงต้องสอนอีกเยอะ โลกสมัยนี้น่ากลัว ภายภาคหน้าต้องเจออะไรอีกเยอะ แต่ตอนนี้ไม่มีอะไรน่ากลัวเท่าหมออย่างผมอีกแล้ว "ช่างเถอะ ถ้ายังเดินไม่ได้ก็ไม่ต้องกลับบ้าน อยู่ที่โรงพยาบาลจนกว่าจะเดินได้" "กลับบ้าน บ้านหนูใช่ไหมคะหมอ หนูจะได้กลับบ้านไปหาพ่อกับแม่แล้วใช่ไหมคะ" "บ้านของเรา หมอเตรียมบ้านไว้ให้แล้ว เธอต้องไปอยู่ที่นั่น เข้าใจไหม ส่วนเรื่องพ่อกับแม่ ไม่ต้องห่วง ท่านบอกว่าให้เธอตั้งใจเรียนสอบเข้ามหาวิทยาลัยให้ได้ ถ้าไม่ตั้งใจท่านจะไม่กลับมาอีกเลย" จำเป็นต้องโกหกไว้ก่อน ดีแค่ไหนที่เธอเชื่อและยอมให้ผมเป็นคนดูแล นึกว่าต้องใช้เวลาเกลี้ยกล่อมนานเป็นเดือน พู่ไหมเป็นเด็กน่าสงสาร พ่อแม่ที่แท้จริงเป็นใครกัน เรื่องนี้ผมกำลังให้พี่จิ้งพี่จกตามสืบอยู่ คงต้องใช้เวลาเพราะเรื่องก็ผ่านมานานมาก เอกสารทุกอย่างต้องเริ่มต้นค้นใหม่ "หมอพูดจริงนะคะ ห้ามโกหกหนูนะ " "หมอเคยโกหกเหรอ " "ไม่เคยค่ะ " ผมจะรอให้เธอพร้อมและรอให้เธอโตกว่านี้ ถึงวันนั้นคนที่เธอเลือกคงเป็นผม "ใช่ ไม่เคย ต่อไปนี้ผู้ปกครองของเธอก็คือหมอ หมอบอกอะไรสอนอะไรก็ต้องฟังแล้วก็ต้องเชื่อ เข้าใจไหม " "เข้าใจค่ะ ต่อไปนี้หมอจะเป็นผู้ปกครองของหนู ดีใจจังหนูจะมีพ่อเป็นหมอแล้ว" นั่นแหละ ตามนั้น เด็กคนนี้พูดอะไรออกมาแต่ละอย่างผมถึงกับกุมขมับ "พ่อเลยเหรอ หล่อๆ แบบหมอนี่เป็นพ่อเลยเหรอ" "ผู้ปกครองก็ต้องเป็นพ่อสิคะ เป็นอะไรไม่ได้แล้วค่ะนอกจากพ่อ หรือว่าหมอจะเป็นแฟนหนู " "อยากให้เป็นไหมล่ะ" "มิอาจเอื้อมค่ะ เป็นแฟนหมอปวดหัวตายเลย ไม่ไหวค่ะ" ยัยเด็กแสบ คำพูดคำจาบางครั้งก็กวนไปนะ "เป็นแฟนหมอแล้วทำไม ไหนพูดมาสิ" "หมอกฎระเบียบเยอะ หมอชอบขู่ว่ามีเข็มฉีดยา หนูไม่ชอบค่ะสู้หาแฟนเป็นเด็กช่างดีกว่า เท่จะตาย " "ไม่มีวันถ้าหมอไม่อนุญาต" เอาสมองส่วนไหนคิด อยากมีแฟนเป็นเด็กช่าง อย่าคิดว่าจะมีวันนั้นเลยเด็กน้อย ยังไงก็หนีไม่พ้นมือหมอคนนี้หรอก ไม่รู้จักฤทธิ์หมอซะแล้ว .............................
ตั้งค่า
ประวัติการอ่าน
ขนาดตัวอักษร
-18
ปลดล็อกบทถัดไปโดยอัตโนมัติ
สารบัญ
ตอนที่ 1 เวรดึก ตอนที่ 2 อย่าเถียงหมอ ตอนที่ 3 เลี้ยงเด็ก ตอนที่ 4 เด็กหมอ ตอนที่ 5 หมอชอบเลี้ยงเด็กหรอ??? ตอนที่ 6 ไร้เดียงสา ตอนที่ 7 เด็กช่างถาม ตอนที่ 8 หมอดุ ตอนที่ 9 ออกเดท appตอนที่ 10 เดตแรกก็พังซะแล้ว appตอนที่ 11 สายแว้น appตอนที่ 12 ติวเตอร์สุดหื่น appตอนที่ 13 จุดเดียวยังเสียวขนาดนี้ Nc appตอนที่ 14 คุณแดง appตอนที่ 15 ใครคนนั้น appตอนที่ 16 หลานสาวกำนันซอ appตอนที่ 17 ความผูกพัน/สายเลือด appตอนที่ 18 ติวหนัก appตอนที่ 19 หนูจะกลับบ้านNc appตอนที่ 20 เข็มหมอใหญ่จังNc appตอนที่ 21 ช่วยตัวเอง Nc appตอนที่ 22 ลูกสาวแม่ appตอนที่ 23 มาตามสัญญา appตอนที่ 24 บอบช้ำ appตอนที่ 25 สูติจำเป็น appตอนที่ 26 คำสั่งเมีย appตอนที่ 27 รักหมอบ้างมั้ยNc appตอนที่ 28 ส่งเมียเข้าสอบ appตอนที่ 29 ทาสเมีย appตอนที่ 30 รักต้องขึ้นNC appตอนที่ 31 ไม่เคยNc appตอนที่ 32 ใส ใส appตอนที่ 33 ป้องกัน appตอนที่ 34 ลูกสะใภ้ appตอนที่ 35 ใครๆก็รักพู่ไหม appตอนที่ 36 กำนันวางระเบิด appตอนที่ 37 ฟิฟตี้เชดออฟ หมอสิงห์Nc appตอนที่ 38 นอนดูดาว appตอนที่ 39 ไข่เจียว appตอนที่ 40 วอดก้าชาวดอย appตอนที่ 41 เข็มป่วยๆ appตอนที่ 42 พ่อ appตอนที่ 43 พี่คนโต appตอนที่ 44 คำอธิบาย appตอนที่ 45 หัวใจของพ่อ appตอนที่ 46 ฉีดยาNc appตอนที่ 47 แม่ appตอนที่ 48 คนป่วยน่ารัก appตอนที่ 49 ตีตราจอง END appตอนที่ 50 ตอนพิเศษ กายภาพบำบัดNC appตอนที่ 51 ตอนพิเศษ เด็กดื้อ app
เพิ่มในชั้นวางหนังสือ
ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น
Joyread
บทก่อนหน้า บทต่อไป
ทรัพยากร
ติดตามพวกเรา
Joyread
UNION READ LIMITED
Room 1607, Tower 3, Phase 1 Enterprise Square 9 Sheung Yuet Road Kowloon Bay Hong Kong
ลิขสิทธิ์ © Joyread สงวนลิขสิทธิ์