ตอนที่ 7 มีเวลาสี่สิบเก้าวัน

“หลันหลันเด็กดี เป็นเด็กกตัญญูรู้คุณ ค่อยๆ ตรองดูเถิดว่าเวลาสี่สิบเก้าวันที่เจ้าลืมตามาอยู่ในร่างนี้ต้องทำสิ่งใดบ้าง” “สี่สิบเก้าวัน? ท่านป้าหมายความว่าอย่างไรเจ้าคะ” “นี่ไม่ใช่ร่างของเจ้า ดวงจิตของเจ้ามาอยู่ในร่างนี้ได้เพียงแค่สี่สิบเก้าวันเท่านั้น” ป้าต๋าซูยังคงลูบศีรษะนางเบาๆ “ที่เจ้ายังมีชีวิตอยู่บนโลกนี้ได้เพราะมีผู้มอบลมหายใจต่ออายุให้เจ้า” หลันหลันขมวดคิ้ว “ใครกันเจ้าคะ?” “ในสี่สิบเก้าวันที่เจ้าอยู่บนโลกมนุษย์นี้ เจ้าต้องกลืนกินลมหายใจของเขาเพื่อต่ออายุเจ้า” “ท่านป้า ท่านช่วยอธิบายให้นกน้อยอย่างข้าเข้าใจง่ายๆ ด้วยเถิดเจ้าค่ะ” นางเบ้ปากทำหน้าอยากร้องไห้เต็มที “คุณหนูของข้าอยู่ที่ไหน ข้าจะไปตามหาคุณหนู” “เจ้าไปหาคุณหนูตอนนี้ไม่ได้” “คุณหนูรอข้าอยู่ใช่ไหมเจ้าคะ” “หลันหลัน จำไว้ เจ้าอยู่ได้แค่สี่สิบเก้าวัน และต้องกลืนกินลมหายใจของผู้มีพระคุณของเจ้า เจ้าจึงยังอยู่บนโลกนี้ได้” มือหยาบกร้านปล่อยศีรษะนางแล้วค่อยๆ หมุนตัวเดินจากไป “ท่านป้า ท่านจะไปไหน” หลันหลันวิ่งตาม แต่เหตุใดนางวิ่งตามจนหอบหายใจแรงก็ยังตามไม่ทัน นางเริ่มหายใจไม่ออกเหมือนคนกำลังจมน้ำอีกครั้ง “ป้าต๋าซู คุณหนู...อย่าทิ้งข้า ข้าไม่อยากอยู่คนเดียว” “หลันหลัน” เสียงทุ้มต่ำเรียกให้นางได้สติ เซียวเหรินนั่งข้างหญิงสาวที่นอนดิ้นรนกระสับกระส่าย ละเมอฟังไม่รู้เรื่องนัก ผิวกายเยียบเย็นราวกับน้ำแข็ง ริมฝีปากซีดขาว เขายื่นมือไปหมายจับมือน้อยๆ ที่เปะปะไปมาเบื้องหน้าคล้ายไขว่คว้าหาบางสิ่ง ทว่าจังหวะที่เขาโน้มตัวลงไปนั้น มือสองข้างของนางก็ยื่นมาคล้องคอเหนี่ยวตัวเองขึ้นมาประกบริมฝีปากของเขาอย่างรวดเร็ว ดวงตาของเซียวเหรินกระตุก เขาควรผลักนางออก แต่ท่าทางไร้ที่พึ่งชวนเวทนาทำให้เขาผลักนางไม่ลง ริมฝีปากนางเยียบเย็นจนเกินไป ร่างกายก็เช่นกัน จากที่ดิ้นทุรนทุรายยามนี้นางสงบลงแล้ว เขาเปิดปากตัวเองเล็กน้อยเพื่อจะถอนหายใจเบาๆ แต่ริมฝีปากนุ่มนั้นก็เผยอริมฝีปากพร้อมกัน เขาเอนตัวไปด้านหลังจะถอยหนีแต่นางกลับเป็นฝ่ายไล่ต้อนยื่นหน้าติดตามไม่ยอมปล่อย เขาไม่คิดว่านางจะกล้า ‘ลวนลาม’ เขาเช่นนี้จึงใช้สองมือจับไหล่กลมมนของนางไว้มั่นเพื่อดันนางออก แต่ดวงตากลมก็ลืมตาขึ้นพร้อมกับผละริมฝีปากออกจากปากของเขา นางถอนหายใจเบาๆ แล้วยกมือขึ้นลูบหน้าอกของตนเอง “นึกว่าจะตายอีกครั้งแล้ว” หญิงสาวพรั่งพรูลมหายใจยาว แล้วยังลูบหน้าอกตนเองอีกหลายครั้ง “ข้าคงไม่กล้าเข้าใกล้น้ำอีก” “เจ้า...” เซียวเหรินขมวดคิ้ว “เจ้าทำอะไร” “อ๊ะ! ซือจื่อมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร” หลันหลันได้สติแล้วรีบกวาดสายตามองรอบตัว นี่เป็นตั่งที่นางนอนหลับใหลตั้งแต่ครั้งแรกที่มาเรือนของเซียวเหริน “ที่นี่บ้านของข้า” เขาเตือนสตินาง “และข้าบอกแล้วว่า...” “ต่อหน้าผู้อื่นห้ามเรียกซือจื่อ” นางรีบพูดขึ้นอย่างรวดเร็วและยิ้มกว้างรอคอยคำชมที่นางจำประโยคคำพูดของเขาได้ แต่เห็นใบหน้าราบเรียบไร้อารมณ์ใด ไม่มีรอยยิ้มหรือคำชม หรือเมล็ดทานตะวัน นางจึงเก็บรอยยิ้มของตนเองแล้วเอ่ยถามเขา “ท่านเซียว ท่านเห็นป้าต๋าซูหรือไม่” นางถามเสียงเบาด้วยท่าทีเกรงอกเกรงใจ “เมื่อครู่ข้าคุยกับป้าต๋าซูอยู่ ข้ายังไม่เข้าใจเรื่องที่นางพูดกับข้าเลย นางก็เดินหนีไปแล้ว” “ป้าต๋าซูไม่อยู่แล้ว” หากเป็นผู้อื่นเขาคงพูดตรงไปตรงมาว่า ‘ตาย’ แล้ว แต่เพราะท่าทางไร้เดียงสาของนางทำให้เขาพูดไม่ออก และดูท่าทางนางจะไม่รู้ตัวว่าเมื่อครู่ นางทำอะไรลงไป “ป้าต๋าซูไม่อยู่...” นางทวนคำพูดของเขาแล้วก็พยักหน้าหงึกๆ “อ้อ! ป้าต๋าซูกลับบ้านแล้วซินะ ดีจริง” เขาไม่ได้แก้ไขความเข้าใจของนาง เห็นนางแย้มยิ้มแล้วเขาก็ปล่อยให้นางคิดเช่นนั้น สีหน้าของนางดีขึ้นกว่าเมื่อครู่ เขาจึงยื่นมือไปจับชีพจรของหญิงสาว ร่างกายของนางอบอุ่นขึ้น ชีพจรเป็นปกติ ริมฝีปากฝาดสีเลือดอีกครั้ง หากไม่นับรอยช้ำจ้ำเลือดบนร่างกาย และการที่บอกว่าตัวเองเป็น ‘นก’ ก็นับได้ว่านางเกือบเป็นปกติทุกอย่างแล้ว “แล้วบ้านของป้าต๋าซูไปทางไหนเจ้าคะ” “เจ้ามีธุระอันใดรึ” เขาถามกลับพลางดึงแขนเสื้อของนางคืนตามเดิม เป็นหญิงสาวที่ไม่ค่อยระวังตัวเองเสียเลย ปล่อยให้ผู้อื่นม้วนแขนเสื้อ จับมือจับไม้เช่นนี้ “ข้าคุยกับท่านป้าต๋าซูยังไม่เข้าใจกระจ่างนัก ท่านป้าก็หันหลังเดินหนีไปก่อน ข้าวิ่งตามอย่างไรก็ตามไม่ทัน” “เจ้าคุยอะไรกับป้าต๋าซู” เซียวเหรินถามอย่างสนใจ ป้าต๋าซูตายหลังจากที่นางหมดสติไปไม่นานนัก เพียงแค่เขาอุ้มนางกลับเข้ามาในห้องได้ครึ่งก้านธูป หลัววั่งก็เรียกเขาเสียงสั่นให้ออกไปดูป้าต๋าซูอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ป้าต๋าซูจากไปแล้วแต่กลับมีรอยยิ้มบนใบหน้า ลูกชายตัวใหญ่ยักษ์ร้องไห้เสียงดังแต่ก็ไม่ได้โวยวายเอาเรื่องอะไรกับเขาอีก ได้ยินจากติงชุ่ยว่าป้าต๋าซูสั่งเสียไว้แล้ว เจ้าหมียักษ์นั้นจึงได้แต่อุ้มร่างไร้ลมหายใจของมารดากลับออกไป “ท่านป้าบอกว่าข้าจะอยู่บนโลกนี้ได้แค่สี่สิบเก้าวัน” นางพูดด้วยสีหน้าจริงจัง แล้วก็ทำหน้าสะดุ้งยกนิ้วมือขึ้นมากางออก กระดิกไปมาเหมือนกำลังนับตัวเลข “ข้าตื่นมากี่วันแล้วเจ้าคะ” “ถ้านับตั้งแต่ที่ข้าอุ้มเจ้าขึ้นจากน้ำ วันนี้วันที่สามแล้ว” เขาอมยิ้มน้อยๆ ไม่ได้ขัดว่านางกำลังพูดเรื่องอันใดอยู่ “แล้วอย่างไรต่อ” “อ้อ!” นางรีบพูดตามที่นางได้ยินมาตรงทุกถ้อยคำ “เจ้ายังต้องทำความปรารถนาให้เป็นจริงเสียก่อน เจ้าอธิษฐานเช่นนั้นมิใช่หรือ” “อธิษฐาน?” เขาเดินไปรินน้ำชาแล้วส่งให้หญิงสาวดื่ม นางรีบคว้ามาดื่มเพราะกระหายน้ำอยู่ก่อนแล้ว หลังจากดื่มจนหมดรวดเดียวก็ใช้หลังมือเช็ดปากตัวเองเร็วๆ ราวกับกลัวจะลืมถ้อยคำของป้าต๋าซู “นี่ไม่ใช่ร่างของเจ้า ดวงจิตของเจ้ามาอยู่ในร่างนี้ได้เพียงแค่สี่สิบเก้าวันเท่านั้น” หลันหลันพูดพร้อมเลียนแบบน้ำเสียงของป้าต๋าซู “ที่เจ้ายังมีชีวิตอยู่บนโลกนี้ได้เพราะมีผู้มอบลมหายใจต่ออายุให้เจ้า” เซียวเหรินรับฟังทุกถ้อยคำของนางไม่กล่าวขัด รอให้นางพูดออกมาจนหมด “ในสี่สิบเก้าวันที่เจ้าอยู่บนโลกมนุษย์นี้ เจ้าต้องกลืนกินลมหายใจของเขาเพื่อต่ออายุเจ้า” หลันหลันพูดตามทุกถ้อยคำของป้าต๋าซู ความสามารถในการจดจำคำพูดของนางนั้นยอดเยี่ยมที่สุด คุณหนูกงกล่าวชมนางเสมอ หญิงสาวยืดอกรอรับคำชมจากเซียวเหริน แต่ชายหนุ่มกลับนิ่งฟังไร้รอยยิ้ม เมื่อมีเพียงแค่ความเงียบ ไหล่นางจึงห่อลงเล็กน้อยพร้อมรอยยิ้มที่เจื่อนไป “เจ้าจะอยู่ได้แค่สี่สิบเก้าวันหรือ?” เขาเอ่ยขึ้นหลังจากมั่นใจว่านางไม่พูดอะไรออกมาอีก หญิงสาวพยักหน้าขึ้นลงแทนคำตอบ “เจ้าฟื้นมาสามวันแล้ว เท่ากับว่าเจ้าเหลืออีกสี่สิบหกวัน” “ถูกต้อง!” นางยืดแผ่นหลังตั้งตรงขึ้นมาอีกครั้ง “ซือ...เอ่อ...เซียวเหรินเก่งที่สุด” หัวคิ้วของเขากระตุก เขาอายุยี่สิบสองแล้วไม่จำเป็นต้องได้คำชมเชยกับแค่การคำนวณจำนวนตัวเลขง่ายๆ แค่นี้ “ระหว่างนี้เจ้าต้องกลืนกินลมหายใจผู้ที่ช่วยชีวิตเจ้า” หลันหลันพยักหน้าขึ้นลงเร็ว “น่าจะเป็นเช่นนั้น” เซียวเหรินยื่นหน้าไปใกล้หญิงสาว นางไม่ได้ถอยหลังหลบ หรือมีสีหน้าเขินอาย แต่ดวงตาของนางกลับจ้องมองเขาด้วยแววตาใสซื่อ “เช่นนั้นเมื่อครู่เจ้ากลืนกินลมหายใจของข้ารึ?” “เมื่อครู่ข้ากลืนกินลมหายใจของซือ...เอ่อ...เซียวเหรินหรือ?” นางถามเขากลับแล้วขมวดคิ้ว นางจำได้ว่านางวิ่งตามป้าต๋าซู แต่ท่านป้าเดินเร็วเหลือเกิน นางวิ่งตามจนแน่นหน้าอกหายใจไม่ออก ร่างกายหมดเรี่ยวแรง และเหมือนมีคนยื่นมาพยุงนางนางจึงคว้าไว้เหมือนที่นางจมน้ำแล้วคว้าสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวเพื่อเอาตัวรอด
ตั้งค่า
ประวัติการอ่าน
ขนาดตัวอักษร
-18
ปลดล็อกบทถัดไปโดยอัตโนมัติ
สารบัญ
ตอนที่ 1 ‘หมอเทวดาไร้ใจ’ ตอนที่ 2 เซียวเหริน ตอนที่ 3 เป็นไปได้อย่างไร ตอนที่ 4 หลันหลัน ตอนที่ 5 ข้ากินไม่อิ่ม ตอนที่ 6 มีเรื่องเช่นนี้ด้วยรึ ตอนที่ 7 มีเวลาสี่สิบเก้าวัน ตอนที่ 8 บอกข้า ตอนที่ 9 ไม่อยากร้องไห้ ตอนที่ 10 เจ้าตายไปแล้ว ตอนที่ 11 เหตุใดนางจึงเป็นเช่นนี้ ตอนที่ 12 ก็ข้าเป็นนก! appตอนที่ 13 ไม่ไหวแล้ว appตอนที่ 14 นางป่วยอยู่จึงทำอะไรประหลาดไปบ้าง appตอนที่ 15 ดวงตาเป็นประกาย appตอนที่ 16 หมู่ตึกนกยูงทอง appตอนที่ 17 จำได้ทุกประโยค appตอนที่ 18 น่าแปลก appตอนที่ 19 รางวัล appตอนที่ 20 ข้าโกหกไม่เก่งและจะไม่โกหกท่าน appตอนที่ 21 สิ่งที่ค้างตา appตอนที่ 22 ยิ้มกลบเกลื่อน appตอนที่ 23 ข้าไม่มีน้องสาว appตอนที่ 24 ของเล็กน้อยเท่านั้น appตอนที่ 25 ข้าจะไปหอชมบุหลัน appตอนที่ 26 แล้วข้าเล่า appตอนที่ 27 เจ้าว่านายป่วยไม่ใช่รึ appตอนที่ 28 ถ้าวันหนึ่งข้าเป็นอะไรป appตอนที่ 29 เพื่อให้มีชีวิตถึงวันที่สี่สิบเก้า appตอนที่ 30 เจ้าก่อเรื่องใด appตอนที่ 31 อย่าพูดเสียงดังไป appตอนที่ 32 ทำงาน appตอนที่ 33 ไม่เชื่อว่าข้าเป็นนก appตอนที่ 34 มือที่มีไว้ช่วยผู้คน appตอนที่ 35 ช่างเป็นนกหงส์หยกที่กะล่อนเสียจริง appตอนที่ 36 ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก appตอนที่ 37 ไม่ถูกต้อง appตอนที่ 38 ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ที่เขาคิดถึงนาง appตอนที่ 39 มาถึงแล้ว appตอนที่ 40 เริ่มดำเนินการตามแผน appตอนที่ 41 เชี่ยวชาญการสะกดจิต appตอนที่ 42 ตามแผน appตอนที่ 43 เจ้าตายไปแล้ว appตอนที่ 44 รับผลกรรม appตอนที่ 45 เสียงเรียกที่แฝงอำนาจ appตอนที่ 46 ผลของการกระทำ appตอนที่ 47 ให้นางตัดสินใจเอง appตอนที่ 48 เหตุใดถึงเจ็บถึงเพียงนี้ appตอนที่ 49 คิดถึง appตอนที่ 50 ใช้หัวใจฟังเสียวหัวใจสิ appตอนที่ 51 เจ้านกตะกละ appตอนที่ 52 ไม่มีอะไรให้ลังเลและกังวลอีกแล้ว appตอนที่ 53 จบ app
เพิ่มในชั้นวางหนังสือ
ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น
Joyread
บทก่อนหน้า บทต่อไป
ทรัพยากร
ติดตามพวกเรา
Joyread
UNION READ LIMITED
Room 1607, Tower 3, Phase 1 Enterprise Square 9 Sheung Yuet Road Kowloon Bay Hong Kong
ลิขสิทธิ์ © Joyread สงวนลิขสิทธิ์