ตอนที่ 2 ไปพบอดีตคู่หมั้นลับหลังสามี หากถูกจับได้จะทาเช่นไร

หรงเยว่กระตุกมุมปาก สีหน้ายากที่จะพรรณนา แต่ก่อนเมื่อฮูหยินถามถึงท่านเสนาบดี ก็มักเรียกว่า 'คนผู้นั้น' ไม่เคยเอ่ยนามด้วยซ้ำ ยังมีคำที่หยาบกว่านั้น อย่างเช่น 'เดนมนุษย์ผู้นั้น' 'สัตว์นรกผู้นั้น' 'คนน่าขยะแขยงผู้นั้น' เป็นต้น ไม่มีคำดี ๆ แม้แต่คำเดียว บัดนี้กลับเรียกว่า 'สามี' คงต้องมีอุบายบางอย่างซ่อนอยู่เป็นแน่ "...เมื่อเช้านี้ท่านทะเลาะกับท่านเสนาบดี จนโทสะกำเริบถึงขั้นสลบไป ท่านเสนาบดีแน่ใจว่าท่านปลอดภัยดีแล้วจึงออกจากจวนไป" "แล้วเขาจะกลับมาเมื่อใด" "ทุกครั้งที่ท่านโต้เถียงทะเลาะกับท่านเสนาบดี ก็มักกล่าวว่าไม่อยากพบหน้าเขาอีก ท่านเสนาบดีก็จะไม่กลับจวนอย่างน้อยครึ่งเดือน" ไม่กลับมาครึ่งเดือนงั้นรึ ก็ดีเหมือนกัน นางจะได้มีเวลาตั้งหลัก ค่อย ๆ ทำความเข้าใจเรื่องราวเสียก่อน มิเช่นนั้น นางคงไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้ากับสามีที่ปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหันได้อย่างไร ขณะที่นางกำลังจะลองสืบตามถามความต่อ จู่ ๆ ก็มีเสียงอุทานดังขึ้นด้วยความประหลาดใจ "เอ๊ะ คุณหนูฟื้นแล้วหรือ" หญิงสาวอายุราวยี่สิบกว่าเดินเข้ามา เป็นอวี่ซี สาวใช้อีกคนของนาง อวี่ซีเข้ามาแล้วกระชากหรงเยว่ออกไป ท่าทางราวกับเผชิญหน้ากับศัตรู "หรงเยว่ เจ้ากำลังใช้เวลาที่ข้าไม่อยู่พูดจายุยงคุณหนูอีกใช่หรือไม่ เจ้าช่างไม่รู้จักเป็นตายเอาเสียเลย ที่นี่ไม่จำเป็นต้องมีเจ้าแล้ว รีบออกไปเสีย ไปบอกให้คนนำอาหารมาให้คุณหนู และเตรียมอุปกรณ์อาบน้ำ" หรงเยว่ถูกผลักจนเซไปนิดหน่อย ดูเหมือนกลัวอวี่ซีอยู่บ้าง ปรายตามองเจียงหวานแวบหนึ่งแล้วรีบออกไป เจียงหวานงุนงง สาวใช้ที่ยโสโอหังผู้นี้คืออวี่ซีสาวใช้ของนางหรือ ถึงขั้นกล้าตัดสินใจแทนนาง ข่มเหงรังแกหรงเยว่ทั้งที่มีฐานะเท่าเทียมกัน เมื่ออวี่ซีไล่หรงเยว่ออกไปแล้ว ก็หันมานั่งข้างเจียงหวานทันที ไม่มีความเคารพนอบน้อมอยู่เลย "คุณหนู เมื่อครู่บ่าวออกไปพบแม่ทัพจิ่งมา และบอกไปว่าท่านทะเลาะกับคนแซ่เซี่ยนั่นเพราะเขาจนสลบไป แม่ทัพจิ่งเป็นห่วงท่านมาก นัดท่านให้พบกันที่หอจิ้งเยว่ในยามบ่ายคล้อย" อวี่ซีเรียกนางว่า "คุณหนู" ต่างจากหรงเยว่ที่เรียก "ฮูหยิน" น้ำเสียงไร้ซึ่งความเคารพ แถมยังเรียกเซี่ยจือสิงที่เป็นถึงเสนาบดีว่า 'คนแซ่เซี่ย' อย่างดูแคลน ช่างไร้กฎระเบียบนัก "คุณหนู เหตุใดท่านจึงไม่พูด ยังมีปฏิกิริยาเฉยชาอยู่อีก อีกไม่นานก็จะได้พบแม่ทัพจิ่งแล้วนะ ท่านไม่ดีใจหรือ" เจียงหวานลองหยั่งเชิง "ข้าควรดีใจหรือ" อวี่ซีขมวดคิ้วกล่าว "ท่านแทบอยากจะออกไปพบกับแม่ทัพจิ่งทุกวันเลยมิใช่หรือ" เรื่องนี้... นางแต่งให้เซี่ยจือสิง ทั้งยังมีบุตรด้วยกันแล้ว แต่ก็ยังข้องเกี่ยวกับจิ่งหลายเช่นนี้อยู่อีกหรือ แปดปีที่ผ่านมา เกิดอะไรขึ้นกันแน่ "บ่าวจะช่วยแต่งตัวให้คุณหนู สวมชุดที่ท่านแม่ทัพบอกว่าคุณหนูใส่แล้วงาม ประดับเครื่องประดับศีรษะที่ท่านแม่ทัพมอบให้ ท่านแม่ทัพชอบเห็นคุณหนูแต่งตัวเช่นนี้" ไม่รอให้เจียงหวานกล่าวอันใด อวี่ซีก็จัดเตรียมเสื้อผ้าเครื่องประดับให้นางเสียแล้ว สีหน้าเริงร่า ราวกับว่าเป็นนางเสียเองที่กำลังจะไปพบชายคนรัก เจียงหวาน "..." นางออกเรือนแล้ว ยังจะสวมใส่เครื่องแต่งกายที่อดีตคู่หมั้นชื่นชอบ แล้วไปพบเขาเป็นการส่วนตัวอีก มันไม่โจ่งแจ้งเกินไปหน่อยหรือ บัดนี้นางไร้ยางอายถึงเพียงนี้แล้วหรือ ยังไม่ทันเข้าใจเรื่องราว สาวใช้ทั้งสองกลับมีท่าทีผิดแผกกันโดยสิ้นเชิง ไม่รู้ว่าผู้ใดควรเชื่อถือ เจียงหวานจึงตัดสินใจรอดูเหตุการณ์ก่อน ก่อนอื่นต้องไปพบจิ่งหลายที่ยังมีชีวิตอยู่ เพื่อคลายความค้างคาในใจ ไม่แน่บางทีอาจสืบความจริงบางอย่างจากเขาได้ หลังจากแต่งกายเสร็จเรียบร้อย และทางอาหารรองท้อง เจียงหวานก็ออกจากจวนพร้อมอวี่ซี โดยอ้างว่าอารมณ์ไม่ดีอยากออกไปเดินเล่น จากนั้นก็มุ่งหน้าไปยังหอจิ้งเยว่ ณ โรงน้ำชาที่โอ่อ่าสง่างามแห่งหนึ่ง เจียงหวานและจิ่งหลาย คนหนึ่งเป็นบุตรีเอกแห่งจวนโหว ส่วนอีกคนเป็นแม่ทัพน้อยแห่งจวนแม่ทัพ แม้นจะไม่นับเป็นคู่ครองที่เติบโตด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก แต่ก็ได้หมั้นหมายกันในวัยแรกแย้ม ซึ่งทั้งสองต่างมีใจให้กัน เมื่อนางอายุสิบห้า ชายแดนตะวันตกมีศึก จิ่งหลายต้องไปออกรบ นางจึงไม่ลังเลที่จะหมั้นหมายกับเขา แล้ววันรุ่งขึ้นนางก็ไปส่งเขาออกศึกด้วยตนเอง เพียงไม่กี่เดือนหลังจากนั้น ก็มีข่าวว่าจิ่งหลายนากองกำลังกลุ่มหนึ่งบุกโจมตีค่ายศัตรู แต่กลับพลาดท่าติดกับอีกฝ่าย ไม่มีผู้ใดรอดกลับมา กล่าวกันว่าคงไม่มีทางกลับมาได้อีกแล้ว นางจึงล้มป่วยลง จิ่งหลายไม่ใช่เด็กหนุ่มองอาจในความทรงจำของนางอีกต่อไป บัดนี้เขาอายุยี่สิบกว่าแล้ว สวมชุดเกราะอ่อนเกล้าผมขึ้นสูง ร่างสูงใหญ่สง่างาม กาลเวลายิ่งเพิ่มความน่าเกรงขามให้แก่เขา คนที่เฝ้าคะนึงหาและโศกเศร้าเมื่อได้ยินข่าวการตาย บัดนี้กลับมายืนอยู่ตรงหน้านางอย่างมีชีวิต ทว่านางกลับแต่งงานกับผู้อื่นและมีบุตรไปแล้ว เจียงหวานรู้สึกปั่นป่วนในอกอย่างถึงที่สุด ขณะที่นางกำลังสับสนอยู่นั้น จิ่งหลายก็ปราดเข้ามาจับมือนางไว้แน่น ก่อนกล่าวด้วยความห่วงใย "หวานหว่าน ได้ยินว่าเจ้าถูกเซี่ยจือสิงยั่วให้โมโหจนสลบ เขาใจร้ายกับเจ้าถึงเพียงนี้ได้อย่างไร ช่างไม่เป็นธรรมกับเจ้าเอาเสียเลย" หือ ตามที่นางได้รับรู้จากคำพูดของหรงเยว่ ต้นเหตุของเรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะนางต้องการช่วยชิงอำนาจทหารมาให้จิ่งหลาย จึงเกิดมีปากเสียงกับเซี่ยจือสิง และเมื่อเซี่ยจือสิงไม่ยินยอม นางจึงโกรธจัดจนหมดสติไปเอง จะโทษว่าเซี่ยจือสิงใจร้ายได้อย่างไร อีกอย่าง จิ่งหลายในฐานะ 'ผู้ที่จะได้ประโยชน์' ในเรื่องนี้ ถึงเป็นคนที่ไม่มีคุณสมบัติจะตำหนิเซี่ยจือสิงมากที่สุดมิใช่หรือ ความรู้สึกสับสนวุ่นวายในใจของเจียงหวานก็สงบลงไปบ้าง นางจึงชักมือกลับแล้วถอยหลังไปก้าวหนึ่ง "เรื่องครั้งนี้เป็นความผิดของข้าเอง จะโทษเขาก็ไม่ได้" จิ่งหลายไม่คาดคิดว่า เจียงหวานที่ทุกครั้งเมื่อพบเขาก็มักวิ่งเข้ามาออดอ้อน ร่ำไห้ระบายความทุกข์ใจ วันนี้กลับชักมือออกจากเขาถอยห่างออกไป ทั้งยังได้กล่าววาจาเช่นนี้ มันทำให้เขาตกตะลึงยิ่งนัก "หวานหว่าน เป็นอะไรไปหรือ ไยเจ้าจึงกล่าวว่ามิใช่ความผิดของเขา แต่ก่อนเจ้าพูดเสมอว่าเขาติดค้างเจ้า ทุกอย่างล้วนเป็นความผิดของเขา บัดนี้เหตุใดกลับพูดแทนเขาเสียอย่างนั้น" นางไร้เหตุผลถึงเพียงนี้เชียวหรือ อีกอย่าง ที่ว่าเซี่ยจือสิงติดค้างนาง นั่นหมายความว่าอย่างไร ในขณะที่เจียงหวานกำลังจะถาม เสียงตื่นตระหนกของอวี่ซีดังมาจากประตู "ท่านเสนาบดี ท่านมาได้อย่างไร มาหาคุณ...ฮูหยินหรือเจ้าคะ บ่าวจะรีบเข้าไปแจ้ง..." "ไม่จำเป็น" เสียงเย็นชาไร้ความรู้สึกของบุรุษกล่าวตัดบทอวี่ซี เจียงหวานและจิ่งหลายหน้าถอดสีแทบพร้อมกัน สัญชาตญาณของจิ่งหลายสั่งให้เขาพุ่งไปที่หน้าต่างหมายหลบหนี ทว่ากลับสายเกินไปเสียแล้ว ประตูห้องส่วนตัวถูกผลักแรง ๆ เจียงหวานที่ยังยืนนิ่งตกตะลึง และจิ่งหลายที่พยายามหนีแต่ไม่ทัน ล้วนอยู่ในสายตาของบุรุษผู้นั้นอย่างแจ่มชัด เซี่ยจือสิงมีใบหน้างดงามดังหยก รูปร่างสูงสง่า สวมอาภรณ์ไหมชั้นดีสีเขียวเข้ม เกล้าผมขึ้นสูง ผู้ที่เคยได้ชื่อว่าเป็นบุรุษผู้เป็นเลิศแห่งเมืองหลวง บัดนี้ ผ่านมาแปดปี กาลเวลาทำให้เขายิ่งดูเย็นชาน่าเกรงขาม เมื่อสบตากับดวงตาอันเยือกเย็นของเซี่ยจือสิง หัวใจเจียงหวานก็เต้นผิดจังหวะ สมองอื้ออึงไปหมด นี่นางกำลังถูกสามีจับได้ว่ามานัดพบกับอดีตคู่หมั้นอย่างนั้นหรือ แม่เจ้า แล้วครานี้นางควรทาเช่นไรดี ยังไม่ทันที่เจียงหวานจะคิดหาทางออกได้ เซี่ยจือสิงก็ก้าวเข้ามาแล้ว ไม่ชายตามองจิ่งหลายที่ยืนประหม่าอยู่ด้านหลังเจียงหวานแม้แต่น้อย เพียงจับจ้องนางด้วยแววตาเย็นชา เจียงหวานหวาดกลัวเขาแต่เดิมอยู่แล้ว รู้สึกว่าคนผู้นี้ไม่ชอบยิ้มเข้าหาได้ยาก ควรอยู่ห่าง ๆ เอาไว้ นางไม่รู้เรื่องในช่วงแปดปีที่ผ่านมาเลย ทว่าบัดนี้ก็ยังกลัวโดยสัญชาตญาณ นางถอยหลังไปหนึ่งก้าว ก่อนจะฝืนเอ่ยขึ้น "ท่าน...ท่านมาได้อย่างไร" นางไม่เคยเป็นเช่นนี้มาก่อน คล้ายกับคนที่รู้สึกผิดจนเผยพิรุธออกมา
ตั้งค่า
ประวัติการอ่าน
ขนาดตัวอักษร
-18
ปลดล็อกบทถัดไปโดยอัตโนมัติ
สารบัญ
ตอนที่ 1 ลืมตาในอีกแปดปีต่อมา สะใภ้ตัวร้ายคือตัวข้าเองรึ ตอนที่ 2 ไปพบอดีตคู่หมั้นลับหลังสามี หากถูกจับได้จะทาเช่นไร ตอนที่ 3 นางเกลียดเขา เขาก็เกลียดนาง ตอนที่ 4 นางจะแก้ไขความผิดในอดีต! ตอนที่ 5 รอจนกว่าจะได้พบ ตอนที่ 6 เตะเจ้าผู้ชายสารเลวเข้ายอดอก ตอนที่ 7 ออกจากเมืองหลวง ตอนที่ 8 กลับบ้านพ่อบ้านแม่ แต่ถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าเรือน appตอนที่ 9 ความเย็นชาที่มิอาจทนรับไหว appตอนที่ 10 เจียงหวานวางยาพิษลูกสาวของตัวเองงั้นหรือ appตอนที่ 11 ลงโทษตามกฎของตระกูล ปลดเจียงหวาน appตอนที่ 12 ผู้ที่วางยาพิษ appตอนที่ 13 เปิดเผย appตอนที่ 14 เหตุใดจึงได้ทรยศท่านแม่ทัพ appตอนที่ 15 เขากลับมาในห้วงเวลาอันคับขัน appตอนที่ 16 ไม่เชื่อ appตอนที่ 17 ภรรยา อนุภรรยา appตอนที่ 18 การกระทำแบบนี้มันช่างเสี่ยงจริง ๆ appตอนที่ 19 การเสนอตัวเอง appตอนที่ 20 ท่านให้ข้าอยู่ค้างแรมกับท่านหรือ appตอนที่ 21 หวั่นใจ appตอนที่ 22 กำแพงใจ appตอนที่ 23 บุตรสาวที่น่ารักของข้า appตอนที่ 24 ตุ๊กตาน้ำตาล appตอนที่ 25 สลักไม้ต่อหลู่ปัน appตอนที่ 26 ไร้ยางอาย appตอนที่ 27 หอความสุขสงบ appตอนที่ 28 จำอะไรไม่ได้เลย appตอนที่ 29 ข้าควรทำอย่างไร appตอนที่ 30 ช่างเป็นคนดีจริง ๆ app
เพิ่มในชั้นวางหนังสือ
ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น
Joyread
บทก่อนหน้า บทต่อไป
ทรัพยากร
ติดตามพวกเรา
Joyread
UNION READ LIMITED
Room 1607, Tower 3, Phase 1 Enterprise Square 9 Sheung Yuet Road Kowloon Bay Hong Kong
ลิขสิทธิ์ © Joyread สงวนลิขสิทธิ์