ตอนที่ 1 ข้ามภพมาเป็นมารดา

เสียงอสนีบาตคำรามกึกก้องสนั่นหู สายอสุนีฟาดผ่าฟ้าเยี่ยงอสรพิษเงินเริงระบำ สายฝนซัดสาดกระหน่ำปะปนด้วยลมแรงโหมกระโชกกรูเข้าสู่ตำหนักเย็น ประตูไม้เก่าคร่ำซึ่งปิดได้ไม่สนิทอยู่แล้วเกิดเสียงดังกัมปนาท ประหนึ่งถูกของหนักกระแทกกระทั้น สาวใช้ตัวน้อยในชุดขาดรุ่งริ่งใช้ร่างกายยันประตูไว้อย่างสุดกำลัง น้ำตาไหลรินอย่างห้ามไม่อยู่ นายหญิงกำลังจะให้กำเนิดบุตร แต่ฟ้าดินกลับไร้ปรานี ยามนี้ทั้งลมทั้งฝนต่างโหมกระหน่ำ เหตุใดสวรรค์จึงมิยอมลืมตา มอบความเมตตาเสียบ้าง แม่นมเฒ่าผู้ยืนอยู่ข้างเตียงก็มีดวงตาแดงก่ำ กล่าวด้วยน้ำเสียงสะอื้นว่า “พระสนม ศีรษะเด็กใกล้โผล่ออกมาแล้ว เพียงท่านออกแรงอีกสักหน่อย บุตรก็จะลืมตาดูโลกแล้ว” หญิงสาวผู้นอนอยู่บนเตียง ใบหน้างามผุดผ่องซีดขาวประดุจกระดาษ เม็ดเหงื่อพร่างพรายทั่วใบหน้า ท้องใหญ่โตนูนเด่นสะดุดตายิ่งนัก นางกัดริมฝีปากแน่น มือที่เกาะเสาเตียงจนข้อนิ้วซีดขาว เส้นโลหิตเขียวปูดโปนทั่วหน้าผาก ทว่าเพียงชั่วอึดใจเดียวหญิงสาวก็ไร้เรี่ยวแรง แม่นมหลี่รีบจับมือนางไว้ กล่าวอย่างยากเย็นว่า “พระสนม โปรดอดทนอีกสักหน่อยเถิด เพียงให้กำเนิดองค์ชาย บางทีพวกเราอาจได้ออกจากตำหนักเย็น ใต้เท้าก็จะได้กลับมายังเมืองหลวงด้วย” หญิงสาวพลันหลั่งน้ำตารินรดสองแก้ม เอ่ยคำสะอึกสะอื้นว่า “บิดาข้าถูกใส่ความ ท่านจงรักภักดีต่อแผ่นดิน ไฉนเลยจะคิดทรยศบ้านเมืองได้” แม่นมหลี่คุกเข่าลงข้างเตียง น้ำตาหยาดหยดตาม “ถูกใส่ความแน่แท้ แต่สุดท้ายย่อมขึ้นกับพระราชดำรัสของฝ่าบาท ขอเพียงพระสนมให้กำเนิดองค์ชาย บางทีทุกอย่างจะคลี่คลายไปในทางที่ดี” ได้ยินคำนี้ หญิงสาวพลันมีแรงฮึดขึ้นมาอย่างน่าประหลาด ทันใดนั้นสายอสุนีฟาดเปรี้ยงดังสนั่น พร้อมกับเสียงร้องไห้ของทารกดังขึ้น หญิงสาวยังไม่ทันเห็นหน้าบุตรแม้แต่น้อย ข้อมือนางพลันอ่อนแรงทิ้งตกลงข้างกาย แม่นมหลี่รีบร้อนหันไปดูเด็ก มิทันสังเกตเห็นความผิดปรกติของหญิงสาวเลย ครั้นได้เห็นกลับดีใจจนมิอาจระงับ “พระสนม คลอดแล้วเจ้าค่ะ องค์ชายจริง ๆ ด้วย” แม่นมหลี่หันกลับมาดูอีกครั้ง เห็นหญิงสาวใบหน้าซีดขาวราวกับสีดินก็สะดุ้งตกใจ “พระสนม ท่านเป็นอันใดไปหรือ?” เด็กสาวน้อยก็รีบรุดเข้ามาใกล้ เมื่อเห็นหญิงสาวนอนนิ่งเงียบไม่ไหวติง ก็พลันส่งเสียงร่ำไห้โฮออกมา “นายหญิง ท่านตื่นสิ อย่าได้ทำให้อวิ๋นไฉตกใจกลัวเลย! นายหญิง นายหญิง!” ...... อินชิงเสวียนถูกเขย่าร่างจนสะดุ้งตื่น ในความทรงจำ นางอยู่ระหว่างทางไปฝึกงานที่บริษัท รถเก๋งคันหนึ่งฝ่าไฟแดงพุ่งตรงเข้ามา จากนั้นก็เกิดเสียงดังสะท้าน ก่อนที่อินชิงเสวียนจะหมดสติในบัดดล เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง ภาพที่เห็นเบื้องหน้าคือเศษซากปรักหักพัง และเด็กหญิงนางหนึ่งกำลังร้องไห้น้ำมูกน้ำตาไหล สวมเสื้อผ้าขาดวิ่นแบบสมัยโบราณ “เธอเป็นใครน่ะ...” อินชิงเสวียนกล่าวอย่างประหลาดใจ ยังไม่ทันเอ่ยถามจบ สาวน้อยก็ร้องไห้ด้วยความดีใจ รีบพูดขึ้นว่า “นายหญิง ท่านฟื้นแล้ว! เมื่อครู่ทำเอาบ่าวแทบขาดใจตาย” นายหญิงอะไร? บ่าวอะไรกัน? อินชิงเสวียนพลันรู้สึกปวดหัวขึ้นมาชั่วขณะ ทันใดนั้นความทรงจำแปลกประหลาดชุดหนึ่งก็หลั่งไหลเข้ามาในหัวสมอง อินชิงเสวียนอดตกใจมิได้ นาง...ถึงกับทะลุมิติมาเสียแล้ว! ร่างกายที่ครอบครองอยู่ในยามนี้ คือลูกสาวที่เกิดจากภรรยาเอกของแม่ทัพใหญ่อินแห่งแคว้นต้าโจว และมีชื่อแซ่เหมือนกับนางทุกประการ หนึ่งปีก่อนอินชิงเสวียนผู้มีอายุสิบหกปีแต่งเข้าสู่ตำหนักรัชทายาท เป็นพระชายารัชทายาทที่ทุกผู้คนล้วนชื่นชมริษยา สองเดือนให้หลัง ฮ่องเต้พระองค์ก่อนวายชนม์ด้วยโรคภัยไข้เจ็บ รัชทายาทจึงได้ขึ้นครองราชย์ อินชิงเสวียนเป็นภรรยาเอก เดิมทีย่อมเป็นตัวเลือกเดียวที่เหมาะสมแก่ตำแหน่งฮองเฮา แต่ยังมิทันได้รับการแต่งตั้งก็มีข่าวว่าบิดาของนางสมคบคิดกับชนเผ่าเจียงอู๋ ก่อการกบฏต่อแผ่นดิน ฮ่องเต้พระองค์ใหม่ครองราชย์ ตามธรรมเนียมย่อมต้องนิรโทษทั่วหล้า จึงมิได้ประหารชีวิตแม่ทัพใหญ่อิน แต่กลับเนรเทศคนทั้งตระกูลไปยังเมืองซุ่ยหานที่อยู่ทางเหนือสุดของแคว้นต้าโจว อินชิงเสวียนผู้อาภัพก็พลอยถูกส่งเข้าตำหนักเย็น กลายเป็นสนมที่ถูกปลดโดยไม่เคยได้รับการแต่งตั้งหนึ่งเดียวของแคว้นต้าโจว ข้างกายนางมีเพียงสาวใช้นามว่าอวิ๋นไฉ ผู้ที่ติดตามมาจากจวนแม่ทัพใหญ่ตอนออกเรือนกับแม่นมหลี่เท่านั้น ที่น่าเศร้ากว่านั้นคือ หลังจากเข้าสู่ตำหนักเย็นได้ไม่นาน นางกลับพบว่าตัวเองตั้งครรภ์เสียแล้ว นางดิ้นทุรันเพื่อเอาชีวิตรอดมาสิบเดือน ในที่สุดก็คลอดบุตรออกมาได้ ทว่านางกลับสิ้นลมหายใจทันที อันที่จริงแม้มิได้เกิดเรื่องของตระกูลอิน ชะตาของอินชิงเสวียนก็ใช่ว่าจะดีมากนัก ฮ่องเต้องค์ใหม่เดิมทีก็มิได้โปรดปรานนาง ครั้งเดียวที่ได้ร่วมเรียงเคียงหมอนกับนาง ยังเป็นเพราะนางใช้เล่ห์กล ครั้นคิดถึงจุดนี้อินชิงเสวียนถึงกับใบ้กิน ผลแตงที่ฝืนบิดเด็ดลงมา สุดท้ายแล้วย่อมไม่หวาน และมิอาจดับกระหายได้จริง ๆ ขณะที่ยังครุ่นคิดแม่นมหลี่ก็อุ้มทารกน้อยแล้วคุกเข่าลง นางยังคิดว่าเมื่อครู่อินชิงเสวียนเพียงแค่เหนื่อยล้า จึงเอ่ยด้วยความตื่นเต้นว่า “ดีเหลือเกินที่พระสนมปลอดภัย ท่านให้กำเนิดองค์ชายจริงๆ บ่าวจะรีบหาวิธีประกาศข่าวดีนี้ออกไปเดี๋ยวนี้” อินชิงเสวียนเอื้อมมือคว้าจับนางไว้ น้ำเสียงอ่อนเปลี้ยเพลียแรงยิ่งนัก “อย่าไป” นางกล่าวเพียงสองคำก็ต้องหอบหายใจรุนแรง เรี่ยวแรงของร่างเดิมถูกสูบสิ้นไปกับการให้กำเนิดเด็กคนนี้หมดแล้ว แม่นมหลี่ไม่เข้าใจ เอ่ยขึ้นว่า “เรื่องนี้เป็นข่าวน่าเปรมปรีดิ์ยิ่ง หากฝ่าบาทและไทเฮาทราบจะต้องดีใจแน่ ๆ” อินชิงเสวียนกดคลึงขมับที่เต้นตุบๆ ของตน พลางขมวดคิ้วกล่าวว่า “พวกเจ้าเงียบก่อนเถิด ศีรษะข้าปวดนัก” แม่นมหลี่รีบหันไปสั่งสาวใช้ชื่ออวิ๋นไฉ “รีบปล่อยม่านลงมาเถิด วันนี้ลมแรงนัก อย่าให้พระสนมต้องลม” อวิ๋นไฉขานรับคำหนึ่ง พลางรีบปล่อยม่านที่เก่าคร่ำชำรุดนั้นลงทันที อินชิงเสวียนจมดิ่งกับความทรงจำของร่างเดิมอีกครั้ง รัชทายาทมิเคยโปรดปรานร่างเดิม อีกทั้งตระกูลฝ่ายมารดาของนางยังเป็นขุนนางต้องโทษอีกด้วย ไทเฮาเองก็อยากให้หลานสาวแท้ ๆ เป็นชายารัชทายาทมาโดยตลอด บัดนี้ร่างเดิมต้องถูกคุมขังในตำหนักเย็นหนึ่งปีแล้ว แทบจะถูกตัดขาดจากโลกภายนอกโดยสิ้นเชิง หากหลานสาวไทเฮาได้แต่งงานกับฮ่องเต้องค์ใหม่ ย่อมไม่มีทางยอมให้นางมีชีวิตอยู่ได้แน่ เวลานี้นางไร้ซึ่งอำนาจ ไร้ทรัพย์สมบัติ ไร้แม้ระทั่งผู้หนุนหลัง แม้แต่ต้นทุนรักษาชีวิตก็ไม่มี หากประกาศข่าวออกไปอย่างผลีผลามย่อมต้องเจออันตรายรอบด้านเป็นแน่ ยิ่งไปกว่านั้นร่างเดิมแลกเด็กผู้นี้มาด้วยชีวิต ไม่ว่าจะอย่างไรนางก็ต้องปกป้องเขาให้จงได้ ขณะกำลังครุ่นคิดว่าจะจัดการอย่างไรต่อไป พลันมีเสียงใสกังวานในหัวว่า “มิติกาลได้ผสานรวมกับผู้ครอบครองร่างโดยสมบูรณ์แล้ว จะมอบน้ำพุทิพย์หนึ่งแห่ง ร้านค้าแลกแต้มระดับต้นหนึ่งแห่ง เชิญผู้ครอบครองนำไปปรับใช้ตามอัธยาศัย” ในชั่วขณะเหม่อลอยนั้น ร่างกายนางพลันปรากฏขึ้นในพื้นที่อันแปลกตาแห่งหนึ่ง ด้านขวามือมีบ่อน้ำใสบริสุทธิ์ ด้านหน้าคือแปลงเกษตรผืนหนึ่ง ถัดจากแปลงเกษตรออกไปคือเรือนใหญ่โตหลังหนึ่ง เมื่อก้าวเข้าไปดูใกล้ ๆ จึงพบว่าเป็นร้านค้าแห่งหนึ่ง ภายในเรียงรายด้วยสิ่งของละลานตา ของกินของใช้อุดมสมบูรณ์พร้อมสรรพ อินชิงเสวียนเผลอยื่นมือไปหยิบชามะลิที่ตนโปรดปราน ทว่ากลับถูกม่านแสงไร้รูปชั้นหนึ่งผลักกลับมา เสียงเมื่อครู่ดังขึ้นเตือนอีกครั้งว่า “สามารถแลกเปลี่ยนได้ด้วยหนึ่งแต้ม” ต้องใช้แต้มด้วยหรือนี่ แล้วจะเอาแต้มเหล่านั้นมาจากที่ใดเล่า? อินชิงเสวียนถามไปสองหนกลับไร้ผู้ใดตอบกลับ เสียงนั้นราวกับมีหน้าที่แนะนำเพียงอย่างเดียว มิได้มีไว้สนทนา นางลองหยิบสิ่งอื่นดูอีกหลายอย่าง ก็ยังมิอาจหยิบออกมาได้ สุดท้ายจึงเดินออกจากร้านไปด้วยความผิดหวัง เมื่อนางใช้หางตาเหลือบมอง พลันเห็นด้านขวาของร้านค้ามีป้ายดิจิตอลขนาดใหญ่ทันสมัยเป็นอย่างยิ่ง ปรากฏข้อความตัวโตเลื่อนไหวอยู่หนึ่งบรรทัด ภารกิจที่หนึ่งของมือใหม่: เพาะปลูกพืชชนิดใดก็ได้ จะได้รับสิบแต้ม อินชิงเสวียนพลันเกิดความตื่นเต้นในใจ เมื่อกล่าวว่าเป็นพืชชนิดใดก็ได้ แสดงว่าว่าปลูกได้ทุกอย่าง หลังจากค้นหารอบหนึ่งกลับพบว่าพื้นที่แห่งนี้สะอาดเรียบร้อยนัก มิได้มีพืชพันธุ์ใดให้ใช้ทำภารกิจ นางจึงต้องถอยออกมาก่อน ในขณะนั้นแม่นมหลี่พลันเปิดม่านเข้ามา อุ้มเด็กน้อยในอ้อมแขนแล้วกล่าวว่า “พระสนม องค์ชายร้องไห้หนักมาก เห็นทีคงหิวนมแล้ว ท่านรีบป้อนนมให้เขาสักหน่อยเถิด”
ตั้งค่า
ประวัติการอ่าน
ขนาดตัวอักษร
-18
ปลดล็อกบทถัดไปโดยอัตโนมัติ
สารบัญ
ตอนที่ 1 ข้ามภพมาเป็นมารดา ตอนที่ 2 พระสนมดูประหลาด ตอนที่ 3 น้ำพุทิพย์วิเศษ ตอนที่ 4 เสี่ยวโก่วตั้น ตอนที่ 5 ผลลัพธ์ที่ไม่คาดคิด ตอนที่ 6 เลี้ยงลูกและก่อกบฏ ตอนที่ 7 หนทางสร้างรายได้ ตอนที่ 8 อย่าปล่อยให้เขาอยู่ดีมีสุข ตอนที่ 9 เจ้าวิปลาสรึ ตอนที่ 10 แสวงหาทางออกด้วยตนเอง ตอนที่ 11 พวกเรามาทำการค้าด้วยกันเถิด ตอนที่ 12 หวาเซี่ยอยู่แห่งหนใด? appตอนที่ 13 ชิ้นละหนึ่งพันตำลึง appตอนที่ 14 นี่คือสินน้ำใจของท่าน appตอนที่ 15 เสริมแคลเซียม appตอนที่ 16 ผู้ใดรังแกเจ้า? appตอนที่ 17 น้ำใต้หลั่งเหนือ appตอนที่ 18 กำแพงมีหู ประตูมีช่อง appตอนที่ 19 ยิ่งนานวันก็ยิ่งคล้ายฮ่องเต้ appตอนที่ 20 น่าเสียดาย appตอนที่ 21 appตอนที่ 22 appตอนที่ 23 appตอนที่ 24 appตอนที่ 25 appตอนที่ 26 appตอนที่ 27 appตอนที่ 28 appตอนที่ 29 appตอนที่ 30 app
เพิ่มในชั้นวางหนังสือ
ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น
Joyread
บทต่อไป
ทรัพยากร
ติดตามพวกเรา
Joyread
FINLINKER TECHNOLOGY LIMITED
69 ABERDEEN AVENUE CAMBRIDGE ENGLAND CB2 8DL
ลิขสิทธิ์ © Joyread สงวนลิขสิทธิ์