ตอนที่ 5 ผลลัพธ์ที่ไม่คาดคิด

เสี่ยวโก่วตั้นดูดนมผงเข้าไปก็สงบลงในทันที สองมือเล็กแกว่งไปมาอย่างดีอกดีใจ เท้าเล็กสีชมพูอ่อนเตะไปมาด้วยความเพลิดเพลิน เมื่อเห็นเจ้าตัวน้อยหลับตาพริ้ม ดูดจุกนมอย่างขะมักเขม้น อินชิงเสวียนก็อดมิได้ที่จะรู้สึกพิศวงในปาฏิหาริย์แห่งชีวิต เจ้าตัวเล็กเพียงเท่านี้ยังพยายามดิ้นรนเพื่อมีชีวิตอยู่ ตัวนางในฐานะมารดาที่ได้มาโดยไม่ตั้งใจ ย่อมต้องพยายามให้มากกว่านี้ พร้อมกันนั้น นางก็รู้สึกว่าเจ้าตัวน้อยนี้ช่างน่าเอ็นดูยิ่งนัก น่ารักกว่าหลานชายที่เอาแต่ร้องไห้เสียอีก นางอยากจะอุ้มเด็กขึ้นมา แต่ก็ยังไม่กล้า รู้สึกว่าแขนขาน้อยๆ นั้นบอบบางเกินไป ไว้โตกว่านี้ค่อยว่ากันอีกทีเถิด เมื่อกลับเข้าห้อง อินชิงเสวียนก็เริ่มครุ่นคิดอีกครั้ง หากจะออกจากวัง จำต้องมีเงินก่อน มีเงินถึงจะเปิดเส้นทางและความสัมพันธ์ต่างๆ ได้ ทว่าเวลานี้พวกนางไม่มีเงินแม้แต่แดงเดียว นับว่าเป็นปัญหาใหญ่ ตอนที่ถูกส่งเข้าตำหนักเย็นนั้นฉุกละหุกนัก ร่างเดิมไม่มีเวลาหยิบฉวยสิ่งใดมาเลย แม้แต่อาภรณ์เปลี่ยนสักชุดก็ไม่มี มิพักต้องพูดถึงอุปกรณ์ปักเย็บ หากมีหนทางหาเงิน ก็คงไม่ต้องทนกินอาหารบูดเสียทุกมื้อเช่นนี้ สิ่งที่ปลูกในมิตินั้นยุคนี้ยังไม่มี หากนำออกไปย่อมถูกสงสัยได้ อีกทั้งยังเก็บรักษาได้ลำบาก อินชิงเสวียนคิดไปคิดมา ในที่สุดก็นึกถึงสองสิ่งที่ทั้งขายได้และเก็บได้นาน นั่นคือกระจกและน้ำหอม เมืองหลวงเต็มไปด้วยผู้สูงศักดิ์ สิ่งเหล่านี้ย่อมได้รับความนิยมอย่างแน่นอน ยิ่งคิดนางก็ยิ่งรู้สึกว่าวิธีนี้เป็นไปได้ นางจึงหลับไปพร้อมกับความฝันในการออกจากวัง นอนอิ่มจนตื่นเอง เมื่อลืมตาอีกครั้ง ท้องฟ้าก็สว่างโร่แล้ว เมื่อนึกถึงผลผลิตที่ปลูกเมื่อวาน อินชิงเสวียนก็รีบเข้าไปในมิติทันที เป็นไปตามที่คาด พืชผลทั้งหมดสุกงอมแล้ว เมื่ออินชิงเสวียนเห็นมะเขือเทศสีแดงสด และรวงข้าวที่หนักจนต้นโค้งก็รู้สึกถึงความสุขจากการเก็บเกี่ยวทันที นางเอื้อมมือเด็ดมะเขือเทศหนึ่งลูก ทันใดนั้นก็มีเสียงแจ้งเตือนดังขึ้นอย่างแผ่วเบา “เก็บเกี่ยวผลผลิตสำเร็จ ได้รับหนึ่งร้อยแต้ม” อินชิงเสวียนรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที นางลองเก็บแตงกวาอีกลูก ทว่ากลับไม่มีข้อความแจ้งเตือนการได้รับแต้ม นางรู้สึกผิดหวังอยู่บ้าง แต่หนึ่งร้อยแต้มก็เพียงพอให้นางแลกของได้มากมายแล้ว ขณะกำลังเก็บเกี่ยวต่อ เสียงนั้นก็ดังขึ้นอีกครั้งว่า “ต้องการใช้แต้มเพื่อให้มิติช่วยเก็บเกี่ยวหรือไม่? ใช้สิบแต้มแลกเปลี่ยน” อินชิงเสวียนคิดไม่ถึงว่าจะมีบริการเช่นนี้ นางจึงรีบกดเลือก “ใช่” ในทันที หากต้องเก็บเกี่ยวด้วยตัวเอง คงต้องใช้เวลานานไม่น้อย ราคานี้ถือว่ายุติธรรมดี ทันทีที่เลือกเสร็จ ตรงหน้านางก็ปรากฏกองมะเขือเทศกับแตงกวากองเล็กๆ พร้อมกับข้าวสาลีที่ถูกวางเรียงกันอย่างเป็นระเบียบ แม้แต่แปลงดินก็ถูกไถพรวนเสร็จเรียบร้อย จากนั้นเสียงนั้นก็ดังขึ้นอีกครั้งว่า “ต้องการใช้แต้มเพื่อให้มิติบดข้าวสาลีเป็นแป้งหรือไม่? ใช้สิบแต้มแลกเปลี่ยน” อินชิงเสวียนเบิกตากว้างอย่างตกใจ นี่มิตินี้ช่างใส่ใจเกินไปแล้ว นางไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย รีบเลือก “ตกลง” ทันที พริบตาเดียว ข้าวสาลีก็กลายเป็นแป้ง แถมมิติยังใส่ใจถึงขนาดบรรจุลงถุงให้อีก มีมากถึงสามสิบกว่าถุง อินชิงเสวียนตื่นเต้นจนแทบกลั้นไม่อยู่ นึกไม่ถึงว่าจะมีแป้งสาลีไว้กินได้เร็วเพียงนี้ อินชิงเสวียนไม่อยากให้ใครสังเกตเห็นว่านางมีของมากมาย จึงตัดสินใจเปลี่ยนมาใส่ในกะละมังเหล็กแทน นอกจากนี้ยังต้องแลกผ้าอนามัยด้วย ร่างกายของเจ้าของร่างเดิมเพิ่งคลอดบุตร ยังมีน้ำคาวปลาคั่งค้าง อีกทั้งเหงื่อออกไม่น้อย ต้องอาบน้ำชำระร่างกายให้สะอาด นางแลกอ่างอาบน้ำพลาสติกกับครีมอาบน้ำขวดเล็กก่อน จากนั้นใช้น้ำพุทิพย์อาบล้างร่างกาย เช็ดตัวให้แห้งก็รู้สึกสดชื่นแจ่มใสขึ้นมาทันที ร่างกายเบาดุจนกนางแอ่น ผิวพรรณก็ละเอียดขึ้น ขาวนวลกว่าเดิม ขณะที่กำลังรู้สึกอัศจรรย์ใจ เสียงของมิติก็ดังขึ้นอีกครั้งว่า “ผู้ครอบครอง เปลี่ยนกายาใหม่ สำเร็จ ได้รับรางวัลห้าสิบแต้ม” โอ้โห! นี่มันของรางวัลพิเศษที่ไม่คาดคิดเชียวนะ! ดูท่ามิตินี้ควรค่าแก่การสำรวจอย่างจริงจัง แต่ตอนนี้ต้องจัดการกับท้องก่อน ไว้มีเวลาแล้วค่อยศึกษาต่อ อินชิงเสวียนจัดเก็บของเล็กน้อย ก่อนเข้าไปในร้านค้าอีกครั้ง นางแลกหมูสามชั้นชิ้นหนึ่ง กระจกเหล็กห้าบาน และน้ำหอมลูกกลิ้งห้าขวด ส่วนที่เหลือก็แลกเป็นน้ำมัน เกลือ ซีอิ๊ว และน้ำส้มสายชู เมื่อนับดูแล้ว ยังเหลือแต้มอีกแปดสิบสองแต้ม ถือว่าคุ้มค่ามาก อินชิงเสวียนทยอยนำของออกไปเป็นสองรอบ พอเลิกม่านขึ้นก็ได้ยินอวิ๋นไฉพูดอย่างหัวเสียว่า “ห้องเครื่องนี่มันเกินไปแล้ว ข้ารอมาทั้งเช้า ยังไม่เห็นมีใครเอาอาหารมาให้เลย จะไม่ให้พวกเรากินแล้วใช่ไหม?” แม่นมหลี่กล่าวเสียงเบา “พอเถอะ อย่างน้อยก็ยังมีบะหมี่ที่นายหญิงให้ เจ้าไปต้มเสีย พวกเราสองคนกินน้ำซุปบะหมี่ก็พอแล้ว” อวิ๋นไฉเงียบเสียงลงทันที “ข้าก็แค่โมโห ข้าจะไปต้มน้ำเดี๋ยวนี้ ขอแค่นายหญิงอิ่ม ข้าก็ไม่หิวแล้ว” อินชิงเสวียนได้ยินเช่นนี้ก็รู้สึกซาบซึ้งใจอย่างยิ่ง การที่พวกนางสามารถพึ่งพากันและอยู่รอดในตำหนักเย็นมาจนถึงตอนนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย “อวิ๋นไฉ เข้ามา วันนี้เราจะกินเนื้อกัน” อวิ๋นไฉชะงักไปครู่หนึ่ง “นายหญิง ท่านเรียกข้าหรือเจ้าคะ?” นางก้าวเข้าห้องไปอย่างรวดเร็ว พอเห็นข้าวของกองโตบนเตียง ก็ตกใจจนปากอ้าค้าง “นี่…นี่เป็นของที่เทพเซียนประทานให้พวกเราหรือเจ้าคะ?” อินชิงเสวียนเม้มริมฝีปากยิ้มบาง “ใช่แล้ว เทพเซียนคงสงสารพวกเราเลยให้เนื้อชิ้นหนึ่ง รีบเอาไปต้มเถิด ใส่เครื่องปรุงพวกนี้ลงไปให้หมดด้วย” อวิ๋นไฉตื่นเต้นจนกลืนน้ำลายลงไปอึกหนึ่ง ครั้นเงยหน้าขึ้นมองก็ต้องตกใจอีกครา “นายหญิงเจ้าคะ ท่าน…ท่านงามขึ้นอีกแล้วเจ้าค่ะ” อินชิงเสวียนตรงหน้า นางงามราวตุ๊กตาเคลือบเซรามิก ผิวขาวละเอียดละมุนดังหยก แค่เป่าก็แทบจะแตกเป็นผุยผง ขนตายังหนาขึ้นมาก ราวกับแปรงเล็กๆ สองพู่ ขนตายาวหนาทอดเป็นแนวสีดำอยู่บนเปลือกตา ทำให้ดวงตาคู่นั้นดูดำขลับเป็นประกายสดใส งามยิ่งกว่าคุณหนูตระกูลสูงศักดิ์ที่แต่งหน้าแต่งตัวมาอย่างดีเสียอีก อินชิงเสวียนสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของตนเองตั้งแต่ก่อนหน้าแล้ว และแน่นอนว่านี่ล้วนเป็นผลของน้ำพุทิพย์ “ช่างเถิด อย่ามัวสนใจเรื่องนั้นเลย มาเปลี่ยนมื้ออาหารของพวกเรากันก่อนเถอะ” ระหว่างที่พูด แม่นมหลี่ก็เดินเข้ามา พอเห็นความเปลี่ยนแปลงของอินชิงเสวียน แม่นมหลี่ก็ตกใจไปชั่วครู่ ทว่าด้วยวัยที่ผ่านโลกมามาก ย่อมไม่ซักถามทุกอย่างเหมือนอวิ๋นไฉ ถึงกระนั้นน้ำเสียงของนางก็ยังแฝงความตื่นเต้นอยู่ “งามจริงๆ งามยิ่งนัก อวิ๋นไฉ เจ้ายังยืนงงอะไรอยู่ รีบไปจัดการเถิด พระสนมยังอยู่ในช่วงอยู่ไฟ ต้องบำรุงร่างกายให้ดี” “เจ้าค่ะ” อวิ๋นไฉรับคำหนึ่งคำ รีบคว้าเนื้อและเครื่องปรุงแล้ววิ่งออกไป อินชิงเสวียนสั่งให้แม่นมหลี่ล้างแตงกวากับมะเขือเทศ มะเขือเทศนำมาคลุกน้ำตาลรับประทานสดได้ ส่วนแตงกวานำมาผัดกับเนื้อก็ไม่เลว ส่วนอินชิงเสวียนลงมือทำแป้งขาวปิ้งเป็นแผ่นด้วยตนเอง บิดามารดาของนางจากไปตั้งแต่เล็ก นางเติบโตมากับย่า ทำแค่นี้จึงเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยสำหรับนาง แม่นมหลี่กับอวิ๋นไฉอยากช่วยเหลือ แต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้ เพราะทั้งสองไม่เคยทำอาหารที่ใช้แป้ง จึงได้แต่ยืนร้อนใจอยู่ข้างๆ ผ่านไปหนึ่งชั่วยาม แผ่นแป้งก็ปิ้งเสร็จ ส่วนเนื้อที่อวิ๋นไฉตุ๋นไว้ก็ใกล้สุกได้ที่แล้ว พอเปิดฝาหม้อ กลิ่นหอมของเนื้อที่ไม่ได้สัมผัสมานานก็อบอวลไปทั่ว “นายหญิงเจ้าคะ เนื้อหอมมากเลยเจ้าค่ะ!” อวิ๋นไฉยิ้มกว้างจนเห็นฟันเขี้ยวเล็กๆ ของตน นางแทบจำรสชาติของเนื้อไม่ได้แล้ว แม่นมหลี่เองก็ไม่ต่างกัน เมื่อมองเนื้อที่มีสีสันสดใสเช่นนี้ ดวงตาของนางพลันร้อนผ่าว อินชิงเสวียนหยิบตะเกียบขึ้นมาแล้ว ยิ้มพลางกล่าวว่า “หอมขนาดนี้ รีบกินกันเถอะ หลังจากนี้ข้าจะพยายามให้มีเนื้อกินทุกวัน” นางคีบเนื้อชิ้นหนึ่งขึ้นมา กำลังจะส่งเข้าปาก แต่แล้วเงาขาวสายหนึ่งก็พุ่งเข้ามาจากที่ไกล และงับเนื้อไปในพริบตา!
ตั้งค่า
ประวัติการอ่าน
ขนาดตัวอักษร
-18
ปลดล็อกบทถัดไปโดยอัตโนมัติ
สารบัญ
ตอนที่ 1 ข้ามภพมาเป็นมารดา ตอนที่ 2 พระสนมดูประหลาด ตอนที่ 3 น้ำพุทิพย์วิเศษ ตอนที่ 4 เสี่ยวโก่วตั้น ตอนที่ 5 ผลลัพธ์ที่ไม่คาดคิด ตอนที่ 6 เลี้ยงลูกและก่อกบฏ ตอนที่ 7 หนทางสร้างรายได้ ตอนที่ 8 อย่าปล่อยให้เขาอยู่ดีมีสุข ตอนที่ 9 เจ้าวิปลาสรึ ตอนที่ 10 แสวงหาทางออกด้วยตนเอง ตอนที่ 11 พวกเรามาทำการค้าด้วยกันเถิด ตอนที่ 12 หวาเซี่ยอยู่แห่งหนใด? appตอนที่ 13 ชิ้นละหนึ่งพันตำลึง appตอนที่ 14 นี่คือสินน้ำใจของท่าน appตอนที่ 15 เสริมแคลเซียม appตอนที่ 16 ผู้ใดรังแกเจ้า? appตอนที่ 17 น้ำใต้หลั่งเหนือ appตอนที่ 18 กำแพงมีหู ประตูมีช่อง appตอนที่ 19 ยิ่งนานวันก็ยิ่งคล้ายฮ่องเต้ appตอนที่ 20 น่าเสียดาย appตอนที่ 21 appตอนที่ 22 appตอนที่ 23 appตอนที่ 24 appตอนที่ 25 appตอนที่ 26 appตอนที่ 27 appตอนที่ 28 appตอนที่ 29 appตอนที่ 30 app
เพิ่มในชั้นวางหนังสือ
ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น
Joyread
บทก่อนหน้า บทต่อไป
ทรัพยากร
ติดตามพวกเรา
Joyread
FINLINKER TECHNOLOGY LIMITED
69 ABERDEEN AVENUE CAMBRIDGE ENGLAND CB2 8DL
ลิขสิทธิ์ © Joyread สงวนลิขสิทธิ์