ตอนที่ 5 กษัตริย์ผู้เหี้ยมโหด

ซ่งเหยาจือก้มศีรษะหนุนลงกับพื้น โชคดีที่ร่างกายนี้ยังเยาว์วัย แถมยังไม่มีโรคคุกคามเรื้อรังจากการทำงานอีก หากเป็นร่างกายของชาติที่แล้ว ลำพังแค่เอวของนาง การคำนับรูปแบบพิธีใหญ่โตเช่นนี้ นางคงลุกไม่ขึ้นแน่ๆ ในขณะที่กำลังคิดเรื่อยเปื่อย หางตาพลันเห็นรองเท้ายาวสีเหลืองอร่ามคู่หนึ่งเดินตรงมายังทิศทางที่นางอยู่ และแล้วก็หยุดลงตรงหน้า “จื่อเชียน รีบลุกขึ้นเถิด ระหว่างเจ้ากับข้า ไม่จำเป็นต้องมากพิธีเช่นนี้” เสียงทุ้มต่ำเย็นชาแต่มีเสน่ห์ดังขึ้น ซ่งเหยาจือคิดว่าหากฮ่องเต้พระองค์นี้เกิดในยุคปัจจุบัน อย่างน้อยๆ ก็ต้องได้เป็นหนุ่มฮอตในเกมจีบหนุ่มเสมือนจริงแน่นอนอย่างไม่ต้องสงสัย เสียงนั้นเอ่ยขึ้นซ้ำอีกครั้ง “ฮูหยินเซียวซ่งก็ลุกขึ้นด้วยเถิด” ฮูหยินเซียวซ่งคือใคร ชื่อนี้ทำไมถึงได้แปลกประหลาดแบบนี้ เมื่อครู่นี้นางลองสังเกตดูแล้วนี่นา ในตำหนัก นอกจากนางและเซียวจื่อเชียน คนอื่นๆ ที่เหลือก็เป็นนางกำนัลและข้ารับใช้ในวัง ในขณะที่ซ่งเหยาจือกำลังขบคิดอยู่นั้น เซียวจื่อเชียนก็ดึงแขนนางให้ลุกขึ้น ซ่งเหยาจือสะดุ้งโหยง ไม่ทันระวัง จึงเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้า ความประทับใจแรกที่อีกฝ่ายมอบให้คือความเยือกเย็น ราวกับมีธารน้ำแข็งกั้นอยู่ในดวงตาลึกล้ำสีดำ เพียงปรายตามอง ก็ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกสั่นสะท้าน ถัดจากดวงตาคือจมูกโด่งคมสัน ต่ำลงมาคือริมฝีปากบางเฉียบ เครื่องหน้าคมชัดมีมิติ ทั้งหล่อ ทั้งเท่ ดูดีจนไม่เหมือนคนจริงๆ เลย เขาไม่ได้สวมอาภรณ์สีเหลืองอร่าม แต่กลับสวมเสื้อคลุมตัวยาวสีดำปักลายด้วยดิ้นทอง ยิ่งขับให้เขาดูมืดมัวและเย็นยะเยียบ “ห้ามมองฝ่าบาทตรงๆ แบบนั้น!” เซียวจื่อเชียนขมวดคิ้วแน่น พลางบีบแขนของซ่งเหยาจืออย่างรุนแรง เพราะความเจ็บ ซ่งเหยาจือจึงได้สติกลับมา นางอดกลั้นความเจ็บปวดแล้วก้มหน้าลง ในใจด่าทอเซียวจื่อเชียนอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหมอนี่กำลังฉวยโอกาสแก้แค้นนางแน่ๆ! แต่จะว่าไป สำหรับยุคนี้ นางเองก็รู้ดีว่าการมองหน้ากษัตริย์ตรงๆ ถือเป็นความผิดร้ายแรงถึงขั้นประหารชีวิต นอกจากนี้นางยังจำได้ว่าในนิยายต้นฉบับได้บรรยายไว้ถึงวิธีการลงโทษผู้ที่บังอาจไม่เคารพยำเกรงกษัตริย์ผู้เหี้ยมโหดพระองค์นี้ สถานเบาก็จะถูกห้าม้าแยกร่าง[1] หนักหน่อยก็ถูกมหันตโทษสิบประการ[2] นางเคยจินตนาการว่าอีกฝ่ายเป็นคนเลวตาตี่ คิดไม่ถึงเลยว่าจะหล่อเหลากว่าเซียวจื่อเชียนเสียอีก นางพูดตะกุกตะกัก “ฝ่าบาท ข้า...เอ๊ยไม่ใช่ หม่อมฉันผิดไปแล้ว หม่อมฉันไม่ควรมองฝ่าบาทเช่นนี้ แต่เป็นเพราะหม่อมฉันเห็นว่าฝ่าบาททรงหล่อเหลาราวเทพเจ้าในอาราม ก็เลยเผลอมองเหม่อไปชั่วขณะ” ทันทีที่คำพูดนี้โพล่งออกมา บรรยากาศเงียบงันไปชั่วครู่ แต่แล้วเฉินอี้ก็หัวเราะขึ้นมา “ไม่ได้เจอกันสองปี รู้สึกว่าบุตรีของท่านอำมาตย์ซ่งคนนี้จะน่าสนใจขึ้นนะ” เมื่อพูดจบก็กันไปมองเซียวจื่อเชียน “จื่อเชียน เจ้าต้องทะนุถนอมคนดีๆ เช่นนี้ให้ดี” เซียวจื่อเชียน “พ่ะย่ะค่ะ” เฉินอี้ยกมือขึ้นตบไหล่เซียวจื่อเชียน แล้วก้าวขึ้นไปนั่งบนบัลลังก์สูง เขานั่งลงแล้วมองไปยังเซียวจื่อเชียน “จื่อเชียน นั่งลงเถิด วันนี้เป็นงานเลี้ยงในครอบครัว จื่อเชียนไม่จำเป็นต้องมากพิธีเช่นนี้” เซียวจื่อเชียนยังคงโค้งคำนับเขา “ขอบพระทัยฝ่าบาท” ซ่งเหยาจือก็ย่อกายคำนับตามไปด้วย ตอนนี้นางสามารถนั่งลงได้อย่างสบายใจแล้ว ฮ่องเต้เสด็จมาถึงแล้ว ดนตรีก็เริ่มบรรเลง ซ่งเหยาจือรับประทานอาหาร พลางรู้สึกในใจว่า บรรยากาศแบบนี้เหมือนกับร้านอาหารที่มีดนตรีสดเลย ผ่านไปอีกไม่นาน เหล่าสตรีงามระหงเอวบางร่างน้อยในชุดบางเบาก็เดินเข้ามา แต่ละคนล้วนมีเสน่ห์เฉพาะตัว โดยเฉพาะรูปร่าง ดีมากเลยทีเดียว! อกเอย เอวเอย ขาเอย นี่นางเห็นได้ด้วยหรือ? เซียวจื่อเชียนเฝ้าสังเกตซ่งเหยาจือมาตลอด หลังจากผู้หญิงคนนี้นั่งลงก็เริ่มกินไม่หยุด ไม่ง่ายเลยกว่านางจะหยุดกินได้ หลังจากนั้นก็เอาแต่จ้องมองนางรำ นางก็เป็นสตรี นางรำสามารถดึงดูดนางได้ขนาดนี้เลยเชียวหรือ! ในขณะที่ความหงุดหงิดกำลังก่อตัว แขนเสื้อสีจันทราข้างหนึ่งก็สะบัดมาทางเขา เขาหลบหลีกโดยสัญชาตญาณ ทว่าในวินาทีต่อมา แขนเสื้อข้างนั้นกลับถูกซ่งเหยาจือคว้าหมับไว้ สิ่งที่เขาเห็นก็คือ หลังจากซ่งเหยาจือคว้าแขนเสื้อนั้นไว้ นางส่งสายตาหวานเยิ้มเย้ายวนไร้ยางอายไปให้อีกฝ่าย เซียวจื่อเชียนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เตือนตัวเองว่าที่นี่คือตำหนักหลินเต๋อ ต้องสำรวมทั้งวาจาและการกระทำ อย่างไรก็ตาม ในวินาทีต่อมา นางรำคนนั้นกลับระเบิดโทสะขึ้นเสียก่อน “ซ่งเหยาจือ ปล่อยแขนเสื้อของข้าเดี๋ยวนี้! ปล่อยสิ!” [1] ห้าม้าแยกร่าง五马分尸เป็นวิธีการประหารของจีนในสมัยโบราณ โดยการผูกเชือกกับห้าส่วนของร่างกาย ได้แก่ คอ แขนทั้งสองข้าง และขาทั้งสองข้าง ปลายเชือกทั้งห้าจะถูกนำไปผูกติดกับม้าจำนวนห้าตัว จากนั้นก็ตีให้มันวิ่งแยกออกไปห้าทิศ [2] มหันตโทษสิบประการ十大酷刑 ในบริบทของประวัติศาสตร์จีน คำนี้เป็นคำเรียกโดยรวมถึงวิธีการทรมานที่โหดร้ายและทารุณที่สุดสิบวิธี ได้แก่ 凌迟’ : พันเฉือน การแล่เนื้อทีละชิ้นอย่างช้าๆ จนตา 车裂’ : รถเทียมแยกร่าง คือการผูกร่างกายเข้ากับรถเทียมสัตว์ห้าคัน แล้วเร่งให้สัตว์ลากไปในทิศทางต่างๆ จนร่างฉีกขาดเป็นชิ้นๆ ‘腰斩’ : การตัดร่างตรงกลางเอว 剥皮’ : การถลกหนังทั้งเป็น 烹煮’ : การต้มหรือเคี่ยวทั้งเป็น 宫刑’ : การตอน 刖刑’ : การตัดเท้า 抽肠’ : การควักไส้ 炮烙’ : การเผาบนเสาทองแดงที่ร้อน 鸩毒’ : การให้ดื่มยาพิษร้ายแรง
ตั้งค่า
ประวัติการอ่าน
ขนาดตัวอักษร
-18
ปลดล็อกบทถัดไปโดยอัตโนมัติ
สารบัญ
ตอนที่ 1 ภรรยาที่ถูกทอดทิ้งของแม่ทัพอำมหิต ตอนที่ 2 จะควักลูกตาหรือทำให้เสียโฉมก็เป็นเรื่องปกติธรรมดา ตอนที่ 3 เวรกรรมของคนคลั่งรักแท้ๆ! ตอนที่ 4 มาแล้ว มาแล้ว บทโหดทำร้ายร่างกายมาแล้ว! ตอนที่ 5 กษัตริย์ผู้เหี้ยมโหด ตอนที่ 6 แต่งงานรับแม่นางหลินมาเป็นภรรยารอง ตอนที่ 7 ท่านแค่อยากได้ร่างกายของนาง ช่างต่ำทรามจริงๆ ตอนที่ 8 ถอยเพื่อรุก แสร้งปล่อยเพื่อจับ ตอนที่ 9 ก็ไม่ได้น่าสงสารอะไรนัก ตอนที่ 10 แต่งตัวเช่นนี้ จะไปงานศพหรือ appตอนที่ 11 ขอให้ลูกได้หย่าโดยเร็ว ได้กลับบ้านไปพักผ่อนอย่างสงบสุขด้วยเถิด appตอนที่ 12 กลัวตาย เป็นสัญชาตญาณของมนุษย์ appตอนที่ 13 แล้วใครจะปลุกปั่นให้เซียวจื่อเชียนหย่าล่ะ appตอนที่ 14 ขอชมตัวเองสักคำว่าเป็น ‘นักพูดแห่งยุคสมัย’! appตอนที่ 15 เจ้ากินไวอากร้ามากไปหรือเปล่า? appตอนที่ 16 ไม่เอ่ยถึงผลประโยชน์แม้แต่น้อย appตอนที่ 17 พวกเราสองคนกำลังแอบลักชู้กัน appตอนที่ 18 ถอดหนึ่งชิ้น ช่วยหนึ่งชีวิต appตอนที่ 19 บุปผาข้าผลิงามบานสะพรั่ง appตอนที่ 20 ไม่แพ้เสด็จพี่ของข้าเลย appตอนที่ 21 appตอนที่ 22 appตอนที่ 23 appตอนที่ 24 appตอนที่ 25 appตอนที่ 26 appตอนที่ 27 appตอนที่ 28 appตอนที่ 29 appตอนที่ 30 app
เพิ่มในชั้นวางหนังสือ
ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น
Joyread
บทก่อนหน้า บทต่อไป
ทรัพยากร
ติดตามพวกเรา
Joyread
UNION READ LIMITED
Room 1607, Tower 3, Phase 1 Enterprise Square 9 Sheung Yuet Road Kowloon Bay Hong Kong
ลิขสิทธิ์ © Joyread สงวนลิขสิทธิ์