ตอนที่ 6 แต่งงานรับแม่นางหลินมาเป็นภรรยารอง

นางคือองค์หญิง! ซ่งเหยาจือตกใจรีบปล่อยแขนเสื้อของฝ่าย ฉางเล่อถลึงตาใส่ซ่งเหยาจือด้วยความโกรธเกรี้ยว “ซ่งเหยาจือ ไม่ได้เจอกันตั้งสองปี ใจกล้าขึ้นมากเลยนะ กระทั่งแขนเสื้อของข้า เจ้าก็กล้าจับด้วยหรือ!” ซ่งเหยาจือทรุดกายคุกเข่าลงตรงฉางเล่อทันที “หม่อมฉันไม่ได้ตั้งใจจะล่วงเกินองค์หญิงนะเพคะ เพียงแต่หม่อมฉันถูกความงามและท่วงท่าการร่ายรำที่น่าหลงใหลขององค์หญิงดึงดูดใจไปชั่วขณะ จึงเผลอจับแขนเสื้อขององค์หญิงเข้า โปรดประทานอภัยให้หม่อมฉันด้วย” นางยอมรับผิดเร็วมากจนองค์หญิงฉางเล่อเองก็ตั้งตัวไม่ทัน เซียวจื่อเชียนที่นั่งมองนางอยู่ข้างๆ ยิ่งมีสีหน้าประหลาดใจ นี่ยังใช่ซ่งเหยาจือที่เคยเย่อหยิ่งเอาแต่ใจหรือเปล่า “เจ้า...คิดจริงๆ หรือว่าข้าน่าหลงใหล” ฉางเล่อถามนางด้วยความเขินอาย ซ่งเหยาจือกล่าวอย่างจริงใจ “งามล่มเมืองเลยเพคะ” ฉางเล่อยกมือขึ้นปิดปากหัวเราะเบาๆ ก่อนจะกระแอมไอแล้วกล่าวว่า “ถือว่าเจ้าสายตาดีใช้ได้ รีบลุกขึ้นเถอะ ไม่เช่นนั้นเสด็จพี่ของข้าจะตำหนิหาว่าข้ารังแกคนอื่นเอาได้” ซ่งเหยาจือถอนหายใจด้วยความโล่งอก นางใช้ฝ่ามือค้ำโต๊ะยันกายลุกขึ้น แล้วกลับไปนั่งที่ แต่แล้วเมื่อหันหน้าไปอีกทาง ก็สบเข้ากับสายตาที่เย็นชาจนถึงขีดสุดของเซียวจื่อเชียน เซียวจื่อเชียน “หน้าไม่อาย!” ซ่งเหยาจืองุนงงพูดไม่ออก แต่นางก็ไม่ได้ใส่ใจกับคำพูดของเซียวจื่อเชียน ตอนที่เขาประจบประแจงคนอื่น ก็ไม่เห็นจะด้อยกว่านางสักเท่าใดเลยนี่นา ในเมื่อรอดพ้นวิกฤตตรงหน้ามาได้แล้ว นางจึงตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะหุบปากแล้วนั่งกินข้าวเฉยๆ แค่กินข้าว คงจะไม่เผลอไปเหยียบเท้าใครเข้าอีกกระมัง แต่ทว่า ในขณะที่นางยังแทะขาหมูไม่ทันหมด องค์หญิงฉางเล่อก็เอ่ยขึ้นมาว่า “พี่จื่อเชียน พี่ชอบการร่ายรำที่ข้าตั้งใจแสดงให้พี่ชมหรือไม่” ซ่งเหยาจือรีบกระดิกหูเงี่ยฟัง ในใจพลางคิดว่า ที่แท้องค์หญิงคนนี้ก็เป็นตัวประกอบหญิงตาบอดอีกคน เซียวจื่อเชียนตอบกลับว่า “องค์หญิงรูปโฉมงดงามเลิศล้ำ คนต่ำต้อยอย่างจื่อเชียนโชคดีมากจริงๆ ที่มีโอกาสได้รับชมการร่ายรำขององค์หญิง” ฉางเล่อถูกยกยอปอปั้นจนยิ้มแก้มปริ เซียวจื่อเชียนถอนสายตากลับมา แต่กลับได้เห็นซ่งเหยาจือส่งสายตาให้เขาเป็นนัยว่า ‘นายก็ใช่ย่อยเหมือนกันนี่นา’ เซียวจื่อเชียนขมวดคิ้ว ความหงุดหงิดก่อตัวขึ้นในใจอีกครั้ง ฉางเล่อเห็นท่าทาง ‘พยักพเยิดส่งสายตาหวานฉ่ำ’ ของคนทั้งสอง ในใจรู้สึกไม่สบอารมณ์ขึ้นมา จึงเอ่ยกับซ่งเหยาจือว่า “ซ่งเหยาจือ เหตุใดถึงเอาแต่กินอาหารเช่นนั้น พี่จื่อเชียนไม่ได้กลับมาตั้งสองปี เจ้าไม่คิดจะร่ายรำให้พี่จื่อเชียนสักหน่อยหรือ” ซ่งเหยาจือรู้สึกไม่ดีเลย นางแค่อยากอยู่เฉยๆ ไม่ต้องเป็นที่สนใจของใคร ซ่งเหยาจือจึงตอบกลับว่า “ทักษะการร่ายรำของหม่อมฉันแย่มาก ไม่ควรนำมาแสดงในที่อันทรงเกียรติเช่นนี้'“ เมื่อคำกล่าวของนางสิ้นสุดลง กลับรู้สึกได้ว่าสายตาของบุคคลผู้มีบทบาททั้งสามในที่นี้ต่างจับจ้องมาที่นางโดยพร้อมเพรียงกัน ซ่งเหยาจือชะงักไปทันที นางพูดอะไรผิดหรือ เฉินอี้เอนกายพิงบัลลังก์สูง มือข้างหนึ่งยกจอกสุราขึ้น มุมปากยิ้มเยาะออกมาอย่างไม่ยี่หระ “ในงานเลี้ยงร้อยบุปผาเมื่อปีนั้น การร่ายรำของฮูหยินเซียวซ่งสะท้านสะเทือนไปทั่วทั้งเมืองหลวง แม้แต่ข้าก็ยังพอได้ยินกับเขาบ้าง บัดนี้เวลาล่วงเลยไปเพียงไม่นาน ฮูหยินเซียวซ่งกลับไม่ยอมร่ายรำอีกแล้ว จื่อเชียน หากถ้อยคำนี้ไปถึงหูท่านอำมาตย์ ท่านอำมาตย์คงไม่ยอมปล่อยเจ้าไปแน่” ทันทีที่เขาพูดจบ ซ่งเหยาจือก็รู้สึกได้ว่าเซียวจื่อเชียนแข็งทื่อไปทั้งตัว คำพูดนี้ของเฉินอี้เป็นเหมือนระฆังที่เคาะอยู่ข้างหูของเซียวจื่อเชียนเพื่อย้ำเตือนให้เซียวจื่อเชียนทำดีกับลูกสาวของท่านอำมาตย์หน่อย ซ่งเหยาจือรู้สึกเห็นใจเซียวจื่อเชียนจริงๆ นางไม่รู้เรื่องการร่ายรำที่สะท้านสะเทือนไปทั่วเมืองหลวงอะไรนั่นเลย ไม่อย่างนั้นนางคงเปลี่ยนคำพูดปฏิเสธเป็นอย่างอื่นแล้ว ในขณะที่ซ่งเหยาจือกำลังคิดว่าจะออกหน้าช่วยเซียวจื่อเชียนพูดอะไรสักคำสองคำดีหรือไม่ อย่างไรเสียการปล่อยให้เพื่อนร่วมงานรับเคราะห์คนเดียว มันดูจะไร้ศีลธรรมไปหน่อย แต่แล้วจู่ๆ เซียวจื่อเชียนก็เดินออกไปคุกเข่าลงกลางตำหนัก “ฝ่าบาท กระหม่อมรู้ตัวว่าทำผิดต่อเหยาจือ กระหม่อมไม่รู้ว่าจะชดเชยให้นางได้อย่างไร จึงหวังเพียงว่าจะไม่ทำผิดต่อหญิงสาวผู้บริสุทธิ์อีกคนหนึ่ง” เซียวจื่อเชียนหยุดไปชั่วขณะ ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ราวกับตัดสินใจบางสิ่งได้ แล้วจึงกล่าวต่อว่า “ตอนอยู่ชายแดน หลินโหรวเอ๋อร์เคยช่วยกระหม่อมไว้ ชีวิตนี้จึงรอดมาได้ ดังนั้นกระหม่อมจึงอยากจะแต่งงานรับแม่นางหลินมาเป็นภรรยารอง ขอฝ่าบาททรงพระกรุณาพระราชทานสมรสด้วยพ่ะย่ะค่ะ” ว้าว! เคยเจอคนหน้าไม่อาย แต่ไม่เคยเจอใครหน้าไม่อายขนาดนี้มาก่อน ซ่งเหยาจือรู้สึกโมโหแทนเจ้าของร่างเดิมจริงๆ ฟังดูสิ นี่มันคำกล่าวอ้างบ้าบออะไรกัน รู้ตัวว่าทำผิดต่อนาง แต่เพราะไม่รู้ว่าจะชดเชยอย่างไร จึงไม่อาจทำผิดต่อหลินโหรวเอ๋อร์ได้ เห็นเจ้าของร่างเดิมเป็นคนปูพรมแดงหรือคนปลูกต้นไม้ให้คนอื่นเก็บเกี่ยวหรืออย่างไร? ความขมขื่นที่เจ้าของร่างเดิมได้รับจากเซียวจื่อเชียน ไม่ใช่ว่าเขามองไม่เห็น แต่เขากลับนำประสบการณ์ที่ได้จากเจ้าของร่างเดิมไปมอบให้ผู้หญิงอีกคน
ตั้งค่า
ประวัติการอ่าน
ขนาดตัวอักษร
-18
ปลดล็อกบทถัดไปโดยอัตโนมัติ
สารบัญ
ตอนที่ 1 ภรรยาที่ถูกทอดทิ้งของแม่ทัพอำมหิต ตอนที่ 2 จะควักลูกตาหรือทำให้เสียโฉมก็เป็นเรื่องปกติธรรมดา ตอนที่ 3 เวรกรรมของคนคลั่งรักแท้ๆ! ตอนที่ 4 มาแล้ว มาแล้ว บทโหดทำร้ายร่างกายมาแล้ว! ตอนที่ 5 กษัตริย์ผู้เหี้ยมโหด ตอนที่ 6 แต่งงานรับแม่นางหลินมาเป็นภรรยารอง ตอนที่ 7 ท่านแค่อยากได้ร่างกายของนาง ช่างต่ำทรามจริงๆ ตอนที่ 8 ถอยเพื่อรุก แสร้งปล่อยเพื่อจับ ตอนที่ 9 ก็ไม่ได้น่าสงสารอะไรนัก ตอนที่ 10 แต่งตัวเช่นนี้ จะไปงานศพหรือ appตอนที่ 11 ขอให้ลูกได้หย่าโดยเร็ว ได้กลับบ้านไปพักผ่อนอย่างสงบสุขด้วยเถิด appตอนที่ 12 กลัวตาย เป็นสัญชาตญาณของมนุษย์ appตอนที่ 13 แล้วใครจะปลุกปั่นให้เซียวจื่อเชียนหย่าล่ะ appตอนที่ 14 ขอชมตัวเองสักคำว่าเป็น ‘นักพูดแห่งยุคสมัย’! appตอนที่ 15 เจ้ากินไวอากร้ามากไปหรือเปล่า? appตอนที่ 16 ไม่เอ่ยถึงผลประโยชน์แม้แต่น้อย appตอนที่ 17 พวกเราสองคนกำลังแอบลักชู้กัน appตอนที่ 18 ถอดหนึ่งชิ้น ช่วยหนึ่งชีวิต appตอนที่ 19 บุปผาข้าผลิงามบานสะพรั่ง appตอนที่ 20 ไม่แพ้เสด็จพี่ของข้าเลย appตอนที่ 21 appตอนที่ 22 appตอนที่ 23 appตอนที่ 24 appตอนที่ 25 appตอนที่ 26 appตอนที่ 27 appตอนที่ 28 appตอนที่ 29 appตอนที่ 30 app
เพิ่มในชั้นวางหนังสือ
ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น
Joyread
บทก่อนหน้า บทต่อไป
ทรัพยากร
ติดตามพวกเรา
Joyread
UNION READ LIMITED
Room 1607, Tower 3, Phase 1 Enterprise Square 9 Sheung Yuet Road Kowloon Bay Hong Kong
ลิขสิทธิ์ © Joyread สงวนลิขสิทธิ์