ตอนที่ 6 ให้กำลังใจตัวเอง

ยิหวาลุกขึ้นจากโต๊ะคอมพิวเตอร์เพื่อหยิบพจนานุกรมแต่แล้วเธอก็เพิ่งรู้ตัวว่าด้านนอกมีเม็ดฝนโปรยปรายลงมาหญิงสาวเดินไปที่หน้าต่างปลายนิ้วแตะกระจกหน้าต่างเบาๆ แล้วลากเส้นบนกระจกอย่างไม่รู้ตัวเธอกำลังเขียนสารคดีชุดหนึ่งเพื่อใช้มันส่งประกวดและเผื่อไว้สมัครงานที่นิตยสารท่องเที่ยวที่อื่นความจริงที่ไม่อาจจะหลอกตัวเองได้ว่าเธอคงไม่มีวันได้ทำงานสายข่าวการเมืองแน่ๆ หากบิดาของเธอยังคงสนุกสนานกับการเล่นการเมืองเธอถูกกีดกัดทุกวิถีทางไม่ให้ทำงานอะไรที่ข้องเกี่ยวกับการเมืองดูมันจะไร้สาระไปหน่อยโดยเฉพาะพ่อแม่ที่แยกทางกันแล้วพ่ออาจจะไม่ไว้ใจและคิดว่าเธอต้องคิดแก้แค้นขุดคุ้ยเอาเรื่องเน่าๆ ในวงการการเมืองมาเล่นงานเธอไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่าการเป็นกระบอกเสียงที่ซื่อสัตย์ให้พี่น้องประชาชนเท่านั้นแต่ถึงกระนั้นเธอก็ควรสำนึกบุญคุณของพ่อที่ยังส่งให้เธอเรียนจนจบมหาวิทยาลัยอย่างไม่เดือดร้อน และนี่อาจเป็นเรื่องหนึ่งที่ผลักดันให้เธอหางานทำให้เร็วที่สุดเพื่อที่จะได้เป็นที่พึ่งของแม่ได้ ชีวิตมันต้องก้าวไปข้างหน้าไม่ว่าอย่างไรก็ต้องก้าวต่อไป ยิหวาให้กำลังใจตัวเอง ตอนนี้เธอกำลังหาข้อมูลเกี่ยวการปล่อยสารพิษของโรงงานอุตสาหกรรมแห่งหนึ่งที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงระบบนิเวศของสัตว์เลื้อยคลาน แต่ยิ่งทำยิ่งเจอแต่ปมปัญหามกมายจนรู้สึกว่าตัวเองกำลังก้าวเข้าสู่เรื่องที่ไม่ควรรู้ กริ๊งงงงงง ร่างเพรียวสะดุ้งเฮือกเมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์บ้านที่วางไว้อยู่ใกล้เตียงนอนเธอรีบผวาไปรับสายทันที “ยิหวาค่ะ” “หวา!ไปทำข่าวงานประกาศผลรางวัลฯได้ไหม” “ทำไมละคะ ก็พี่ชิงให้คนอื่นไปทำแล้วนี่”เธอกรอกเสียงตอบประสาทหูยังได้ยินเสียงวุ่นวายจากปลายสายจึงเดาได้ไม่ยากว่าบก.หนุ่มยังอยู่ที่ทำงาน เธอจึงไม่แปลกใจที่บก.ขี้เหนียวของเธอจะโทรศัพท์เข้าบ้านเพื่อประหยัดเงินของบริษัทฯ “ใช่แต่คนมันท้องเสียจะให้ไปยังไง คนอื่นพี่ก็ส่งไปที่อื่นหมดแล้ว” “รู้สึกเหมือนตัวเองมีค่ายังไงไม่รู้”เธอรู้ว่าบก.ไม่อยากให้เธอไปต่อปากต่อคำกับใครเท่าไหร่นักจึงส่งไปทำสัมภาษณ์งานในส่วนอื่นมากกว่า “ตกลงเราไปน่ะ” “ทำอย่างกะหวาจะเลี่ยงได้” เธอหัวเราะแล้วหยิบปากกาวนเป็นวงกลมที่ตัวเลขบนปฏิทินตั้งโต๊ะ“แต่งตัวยังไงก็ได้ใช่ป่ะ” “อย่าให้สวยเกินดาราแล้วก็อย่าให้ขี้เหร่ขนาดขายหนังสือพิมพ์หน้าก็พอแล้ว” “งานหนักเลยนะเนี่ย”เธอเอาปากกาเคาะหัวตัวเองสองสามครั้ง “ไปกับใครคะ” “หวานใจแกนั้นแหละ” “โอเคถ้าไปกับคนรู้ใจก็ไม่มีปัญหาค่ะ” เธอยิ้ม “มีค่าโอทีไหมคะ” “ยังจะมาพูดมากอีก แค่นี้นะพี่ยุ่งวะ” “เจ้าคะพี่ชิง...” “ชิงชัย! พูดให้มันครบๆ หน่อยซิ” ปลายสายวางโทรศัพท์ไปแล้วยิหวาจดบันทึกงานก่อนจะวางหูแล้วเดินลงมาชั้นล่างแม่กับปลายรุ้งยังนั่งคุยกันอยู่หน้าจอโทรทัศน์บนโต๊ะเตี้ยๆ มีหนังสือเล่มหนาหลายเล่มคุณช่อแก้วเคยเป็นครูภาษาอังกฤษมาก่อนจึงคอยช่วยเหลือตรวจดูความถูกต้องในการแปลหนังสือของปลายรุ้งเสมอๆ ปลายรุ้งเงยหน้ามองยิหวาที่ก้าวลงบันไดแล้วก็หลบตาวูบในขณะที่คุณช่อแก้วยังนั่งนิ่งๆ แสร้งเปิดนิตยสารเหมือนไม่สนใจอะไร แต่ยิหวาก็ยิ้มที่มุมปากยกมือเท้าเอวตรงหน้าสองสาวต่างวัย “แอบฟังโทรศัพท์หวาอีกแล้วละซิ” ปลายรุ้งสะดุ้งเฮือกเธอเป็นคนเก็บอาการไม่อยู่ยิ่งถ้าโกหกมองตาก็รู้แล้ว แต่คุณช่อแก้วเงยหน้ามองลูกสาวยิ้มๆ “แม่เป็นคนต่อโทรศัพท์ให้ลูกเอง แล้วมันก็ไม่ได้มีอะไรที่เป็นความลับนี่” “ไม่มีอะไรเป็นความลับเลย ยิหวาเป็นคนของทุกคนอยู่แล้วค่ะ” เธอย่นจมูกรู้ดีว่าเถียงกับแม่ยังไงก็ไม่มีวันชนะเหตุผลร้อยแปดพันเก้าที่แม่ยกเอามาใช้กับเธอได้หรอก“งั้นเข้าปัญหาเลยแล้วกันพรุ่งนี้หวาจะใส่ชุดอะไรไปทำงานดี” “กระโปรงซิจ๊ะ หวาต้องใส่กระโปรงจะได้สุภาพถูกกาลเทศะด้วย” ปลายรุ้งรีบเสนอความคิด “นั้นแหละปัญหาใหญ่หวาไม่รู้จะใส่กระโปรงตัวไหนค่ะ”ไม่ใช่เธอไม่มีกระโปรงแต่เรื่องการแต่งตัวนี่เป็นปัญหาใหญ่ของเธอเพราะปกติใส่แต่เสื้อเชิ้ตกางเกงยีนไปทำงานจนแทบไม่เคยใส่กระโปรงเลยด้วยซ้ำ “ถ้าอย่างนั้นเราไปเปิดตู้เสื้อผ้ากันดีกว่า”คุณช่อแก้วเดินนำลูกสาวขึ้นมาที่ห้องของยิหวาแล้วเปิดตู้เสื้อผ้าของยิหวาออกซึ่งก็มีแต่เสื้อสีขาวกับดำและกางเกงยีนเสียส่วนใหญ่ “เปิดตู้กี่ที่ก็เหมือนเดิมมีแต่เสื้อผ้าสีงานศพ” “โธ่แม่! ก็หวาชอบของหวาแบบนี้นะ” ยิหวาเดินไปนั่งที่ปลายเตียง“แม่หยิบอะไรก็ได้ออกมาสักชุดเถอะหวาจะได้รู้ว่าพรุ่งนี้หวาจะใส่อะไรไปทำงาน” คุณช่อแก้วกับปลายรุ้งช่วยกันเลือกเสื้อผ้าในตู้ของยิหวาเสียงโทรศัพท์มือถือของหญิงสาวก็ดังขึ้นเธอรีบกดรับเมื่อเห็นชื่อที่ปลายทางที่โชว์อยู่บนหน้าจอ “พี่หวา!ช่วยพวกเราด้วย!” “เอ็ม! ตอนนี้อยู่ไหน” “ผมอยู่ถนนพระอาทิตย์ฮะพี่! ตำรวจจับพวกเราแต่พวกเราไม่ได้ทำอะไรผิดนะฮะ” “ใจเย็ยๆ พี่จะไปเดี๋ยวนี้แหละ” ยิหวาลุกขึ้นแล้วฉวยเสื้อยืดสีขาวที่ปลายรุ้งถือไว้พอดีกับกางเกงยีนสีดำที่คุณช่อแก้วหยิบออกมาวิ่งผลุบเข้าไปในห้องน้ำแล้วออกมาในชุดทะมัดทะแมง “ดึกแล้วจะไปไหนหรือลูก” “พวกน้องๆ ที่หวาเคยทำสัมภาษณ์ถูกตำรวจจับคะ หวาจะไปดู” “คุณพระช่วย”คุณช่อแก้วยกมือทาบอก “เรื่องอะไรเนี่ย” “กลับมาหวาจะเล่าให้ฟัง ปลายฝากดูแม่ด้วยนะ” ยิหวาหยิบย่ามใบเก่งแล้วรีบวิ่งลงมาชั้นล่างคว้ากุญแจรถแล้วกระโจนออกไปอย่างไม่กลัวสายฝนที่โปรยปรายลงมากลางดึกรถเต่าสีเขียวทำงานทันทีอย่างไม่งอแงแล้วพาหญิงสาวมุ่งไปสู่จุดหมาย เธอไม่ได้สังเกตเลยว่ามีรถเก๋งสีดำคันหนึ่งที่จอดอยู่หน้าบ้านเธอนิ่งนานแล้วขับเคลื่อนตามหลังเธอมาราวกับเงาที่คอยระวังภัย ใช้เวลาเพียงไม่นานนักยิหวาก็มาถึงสถานทีตำรวจสายตาของเธอมองกวาดไปยังเด็กหนุ่มที่เคยพบปะพูดคุยแล้วร่างเธอก็รีบมุ่งไปยังกลุ่มเด็กเจ็ดแปดคนที่เรียงกันอยู่หน้าตำรวจนายหนึ่งเหมือนกำลังลงบันทึกประจำวัน “เอ็ม!” “พี่ยิหวา” หนึ่งในนั้นร้องขึ้นอย่างดีใจที่เห็นยิหวามาตามที่พูดไว้จริงๆ “คุณตำรวจคะ มีเรื่องอะไรหรือคะ” ยิหวาเข้าไปถามตำรวจนายหนึ่งที่กำลังลงบันทึกประจำวัน “ทะเลาะวิวาท” “เกิดอะไรขึ้นเหรอ”ยิหวาหันไปมองใบหน้าเด็กหนุ่มแต่ละคนที่หน้าตาบวมช้ำ หญิงสาวได้แต่ถอนหายใจหนักๆ ก่อนสูดลมหายใจลึก“ดิฉันเป็นผู้ปกครองของเด็กพวกนี้ค่ะ” คำพูดของยิหวาทำเอานายตำรวจจ้องมองใบหน้าหวานอย่างงุนงงแต่ก็ทำตามที่หญิงสาวต้องการ ............. ร้านข้าวต้มรอบดึกใกล้ศาลเจ้าพ่อหนูมีเด็กหนุ่มห้าคนที่กำลังกินกันอย่างเอร็ดอร่อยทั้งผัดผักบุ้ง,ยำไข่เค็มและไข่เจียวทอดก็หมดเกลี้ยงอย่างรวดเร็ว ยิหวาได้แต่ดื่มชาร้อนมองฝนที่ยังโปรยปรายลงมาบางเบาลงกว่าเดิม “อย่าให้เกิดเรื่องแบบนี้อีกนะ” “ฮะพี่หวา” ‘เอ็ม’ เด็กหนุ่มวัยสิบห้าที่สนิทกับยิหวามากที่สุดเอ่ยขึ้น “พวกเราต้องขอบคุณพี่ยิหวามากๆ ไม่ค่อยมีใครใส่ใจพวกเราเหมือนพี่หวาเลย“ “ถ้าพี่ไม่เคยทำสัมภาษณ์พวกเธอก็คงมองพวกเธอไม่ต่างจากคนอื่นนักหรอก” ยิหวายกมือขึ้นรองใต้คาง “พวกเธอเป็นเด็กดีและมีความมุ่งมันไปสู่ฝันน่าสนับสนุนกว่าเด็กที่วันๆ ทำตัวไร้สาระ แต่อย่าให้มีเรื่องอีกเพราะใกล้วันประกวดเต้นB-Boyแล้วพี่เป็นห่วง” “พวกเราจะไม่ทำให้พี่ผิดหวังฮะ”เอ็มให้คำมั่นสัญญา เมื่อราวๆ สองเดือนก่อนยิหวามาเก็บสัมภาษณ์พวกเขาซึ่งกำลังฝึกเต้นB-Boyอยู่ที่สวนสันติชัยปราการ ถนนพระอาทิตย์B-Boy หรือ Break Boy คือชื่อที่ใช้สำหรับผู้ชาย ส่วนผู้หญิงใช้คำว่า B-Girl ย่อมาจาก Break Girl ทั้งสองอย่างนี้รวมกัน เรียกว่า Break dance
ตั้งค่า
ประวัติการอ่าน
ขนาดตัวอักษร
-18
ปลดล็อกบทถัดไปโดยอัตโนมัติ
สารบัญ
ตอนที่ 1 จุดเริ่มค้น ตอนที่ 2 นักข่าวสาว ตอนที่ 3 ดาราสาว ตอนที่ 4 มาแล้วเหรอ ตอนที่ 5 จมูกดี ตอนที่ 6 ให้กำลังใจตัวเอง ตอนที่ 7 ข่าว ตอนที่ 8 คุณว่าอะไรนะคะ ตอนที่ 9 กรุงเทพฯ 33 ปีที่แล้ว ตอนที่ 10 แด่ลูกแกะตัวที่ 5 ตอนที่ 11 ละอาย ตอนที่ 12 อย่ามาเชื่อใจผม appตอนที่ 13 ซวยแล้ว appตอนที่ 14 มาทำอะไรที่นี่ appตอนที่ 15 ภาพร่างของความรู้สึก appตอนที่ 16 ความรักอย่างเดียวไม่พอ appตอนที่ 17 ไร่ชงคา appตอนที่ 18 ไม่ถนัดจะปลอบขวัญใครเสียด้วย appตอนที่ 19 นี่มันพระเอกในนิยายชัดๆ appตอนที่ 20 อาหารเช้า appตอนที่ 21 น่าอิจฉา appตอนที่ 22 คุณเชื่อเรื่อง Destiny…ไหมครับ appตอนที่ 23 เลือดของเธอกำลังเรียกปีศาจในตัวเขา appตอนที่ 24 บ้าจริง!ไปคิดถึงเขาทำไม appตอนที่ 25 อย่าดื้อ appตอนที่ 26 คุณเรียกผม appตอนที่ 27 คำก็เพื่อนสองคำก็เพื่อน appตอนที่ 28 เสียงที่คุ้นเคย appตอนที่ 29 กระหาย appตอนที่ 30 เมื่อคืนคุณจูบฉันหรือเปล่า appตอนที่ 31 กลิ่นความชั่วร้าย appตอนที่ 32 พายุกระหน่ำ appตอนที่ 33 ปลุกให้ตื่นจากความฝันที appตอนที่ 34 คิดอะไรอยู่ appตอนที่ 35 ขอโทษที่ทำให้ลำบากใจ appตอนที่ 36 ในความทรงจำ appตอนที่ 37 ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง appตอนที่ 38 เหมือนคนที่เคยรู้จัก appตอนที่ 39 ผู้หญิงคนนั้น appตอนที่ 40 ข่มความตื่นเต้น appตอนที่ 41 เจ็บไม่นาน appตอนที่ 42 จะมีเรื่องอะไรอีก appตอนที่ 43 มาทำอะไรในห้องของข้า appตอนที่ 44 ข่มอารมณ์ appตอนที่ 45 อย่าไป appตอนที่ 46 หมดสติ appตอนที่ 47 ผู้หญิงของฌาน appตอนที่ 48 จบ app
เพิ่มในชั้นวางหนังสือ
ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น
Joyread
บทก่อนหน้า บทต่อไป
ทรัพยากร
ติดตามพวกเรา
Joyread
UNION READ LIMITED
Room 1607, Tower 3, Phase 1 Enterprise Square 9 Sheung Yuet Road Kowloon Bay Hong Kong
ลิขสิทธิ์ © Joyread สงวนลิขสิทธิ์