ตอนที่ 8 คุณว่าอะไรนะคะ

“เอ๋?” ดวงตากลมโตกะพริบทำตาปริบๆ ก่อนจะไขกระจกรถลง “คุณว่าอะไรนะคะ “ก็ไม่เห็นคุณขับรถออกไปนึกว่ารถเสีย” เขายิ้มที่มุมปาก เท้าแขนกับกรอบประตูรถ “คุณไม่ไปฉันจะไปได้ไง” “คุณจำทางกลับบ้านตัวเองไม่ได้เหรอ” เขาหัวเราะในลำคอ “อยากให้ผมขับรถไปส่งคุณไหมคุณเจออะไรมาเยอะจะได้รู้สึกผ่อนคลายบ้าง” “ฉันคิดว่าการขับรถกลับบ้านด้วยตัวเองโดยไม่รู้สึกว่ามีใครขับรถตามหลังอยู่นั้นดีกว่าเป็นไหนๆ” “นี่เป็นความผิดผมเหรอครับผมแค่เป็นห่วงและจะขับรถตามไปส่งคุณที่บ้านเฉยๆ ไม่ได้คิดเรื่องอื่นเลยจริงๆ” เขาแสร้งทำหน้าเหรอหรา “คุณคงไม่คิดว่าผมตามจีบคุณหรอกใช่ไหม” ยิหวารู้สึกใบหน้าร้อนผ่าวเพียงคำพูดไม่กี่คำของเขา “ฉะ...ฉันก็ไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นเหมือนกันแหละ” “คุณคงไม่ค่อยคิดกับอะไรทุกเรื่องนั้นแหละ” เขาแสร้งถอนหายใจและทำน้ำเสียงตำหนิเธอ “หมายความว่าไง” ยิหวาอดขึ้นเสียงไม่ได้ “คุณนั้นแหละที่ไม่คิดเรื่องอื่นเลยน่าจะไปแจ้งความจับพวกชั่วนั้น” “ความคิดของคุณก็ถูก”เขาพยักหน้ายอมรับ “แต่มีใครทะเล่อทะล่าเข้าไปทั้งที่ไม่มีปัญญาสู้ใครได้อย่างคุณเหรอแล้วถ้าผมมาไม่ทันจะทำไง คุณก็กลายเป็นของหวานแสนโอชะให้พวกมันด้วยใช่ไหม” ยิหวาเถียงไม่ออก เธอลืมคิดไปเสียสนิทว่าถ้าไม่มีชายหนุ่มแปลกหน้าคนนี้เข้ามาช่วยได้พอดีจะเป็นอย่างไร ในตรอกมืดๆ แบบนั้นใครรู้เห็นอาชญากรรมเลวร้ายนั่น “ผมรู้ว่าคุณเก่งแต่อย่าทำแบบนี้อีกมันคงไม่โชคดีแบบนี้ทุกครั้งไปหรอกนะ”เขายืดตัวเต็มความสูงถอยห่างจากรถของยิหวา “คุณกลับเถอะ รับรองว่าผมไม่ใช่พวกโรคจิตที่จะขับรถตามไปก่อกวนคุณที่บ้านหรอก” ชายหนุ่มขยับตัวออกห่างให้รถเต่าสีเขียวอ่อนเคลื่อนออกไปได้ ยิหวาขับรถมาอีกครึ่งชั่วโมงก็ถึงบ้านของตัวเอง ปลายรุ้งยังนั่งรออยู่ด้วยความเป็นห่วงในขณะที่มารดาของเธอเข้านอนไปแล้ว“ปลายเป็นห่วงหวาแทบแย่ นี่ให้คุณแม่กินยาแล้วก็เข้านอนไปก่อน” “ขอโทษทีมันมีเรื่องวุ่นวายหลายชั้น”ยิหวาวางกุญแจรถบนหลังตู้เย็นแล้วอดมองออกไปนอกหน้าต่างไม่ได้ไม่มีเงารถสปอร์ตสีดำคันนั้นขับตามมาอย่างที่เขาพูดจริงๆ “เล่ามาให้หมดไส้หมดพุงเลยยัยหวา ถ้าไม่เล่าคืนนี้ไม่ต้องนอนกันเลย” “เล่าก็ได้แต่ห้ามเอาไปเขียนนิยายของปลายนะ”ยิหวาแสร้งทำเป็นยิ้มทะเล้นแต่เพื่อนสาวหยิกที่แขนเข้าให้โทษฐานที่ทำให้หมั่นไส้เกินเหตุ “เล่าแล้วๆ นับวันยิ่งเหมือนคุณช่อแก้วเข้าไปทุกที” “ไม่ต้องมาเฉไฉไปเรื่องอื่นเลย”ปลายรุ้งเห็นสายตาของเพื่อนมองออกไปที่นอกหน้าต่างก็เลยมองตามแต่ก็ไม่เห็นอะไร “มีอะไรหรือเปล่า มีคนบ้ากามตามหวามาหรอ” “ไม่มีไรหรอกจ๊ะ” ยิหวาไม่อยากให้เพื่อนรักเป็นกังวลเกินเหตุแต่ก็อดคิดถึงชายหนุ่มร่างสูงเมื่อครู่ไม่ได้ถ้าเขาเป็นคนเดียวกับที่เธอเคยเจอเมื่อสามปีก่อนทำไมถึงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย แต่เธอก็จดจำอะไรไม่ได้มากนักมันเหมือนภาพฝันเบลอๆ ที่เธอก็ไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องจริงอยู่แล้วแต่ดวงตาสีแดงที่เปล่งประดายองเขาทำให้อดคิดไม่ได้ว่านั้นเป็นเพียงภาพสะท้อนของแสงไฟหรือเธอคิดไปเองหรือว่า...มันเป็นเรื่องจริงแต่ถ้าวันนี้ไม่มีเขาเธอก็แย่แน่ๆเหมือนกัน “โอ๊ยตายแล้ว!” “เป็นอะไรไปยัยหวา”ปลายรุ้งสะดุ้งกับท่าทางตกใจของยิหวา “ฉันลืมขอบคุณ ‘เขา’ เสียสนิทเลยชื่อแซ่ก็ไม่ได้ถามด้วย” “เขาเหรอ...นี่ออกจากบ้านกลางดึกแล้วมาเกือบเช้าเพราะไปหาผู้ชายเหรอ”ปลายรุ้งยกมือปิดปากตัวเอง “ไม่ใช่แบบนั้น”ยิหวาเกาหัวตัวเองแกรกๆ สงสัยต้องเล่าให้ครบทุกฉากทุกตอนไม่อย่างนั้นกลายเป็นนิยายเรื่องใหม่ของปลายรุ้งไปแน่ๆ “ไปเล่าบนห้องนอนเถอะ หวาง่วงแล้ว” ยิหวาดึงแขนปลายรุ้งให้เดินตามขึ้นมาที่ห้องนอนของเธอแต่ก็อดมองเลยข้ามรั้วไปหน้าบ้านไม่ได้ เมื่อเห็นไฟในบ้านปิดเรียบร้อยแล้วร่างสูงใหญ่ที่แฝงตัวในเงาของต้นไม้หน้าบ้านก็โผล่ออกมา เขาไม่ได้กลับมายืนตรงนี้ราวสามปีแล้ว แม้จะมีร่องรอยการเปลี่ยนแปลงตามกาลเวลาแต่ความรู้สึกบางอย่างยังอบอวลอยู่ในใจ เขาสูดอากาศที่มีกลิ่นกายของหญิงสาวเข้าเต็มปอดก่อนกระโดดข้ามรั้วแล้วเดินช้าๆ มาที่รถซึ่งจอดหลบอยู่อีกซอยหนึ่ง ฌานหัวเราะในลำคออย่างที่ไม่คิดว่าจะเจอเรื่องสนุกๆ แบบนี้ รถสปอร์ตคันหรูที่ดูไม่เข้ากับเจ้าของซึ่งใครๆ มองว่าเป็น ดร.เพี้ยนแต่ทว่าตอนนี้ผู้ที่บังคับรถกลับชายหน้าใบหน้าคมเข้มแบบอังกฤษ ใบหน้าที่เคร่งขรึมตลอดเวลามีรอยยิ้มอย่างที่ไม่ค่อยได้พบเห็นนักฌานหัวเราะในลำคอขณะที่เพลงบูลส์บรรเลงจากเครื่องเสียงชั้นเลิศในรถ อีกไม่กี่ชั่วโมงก็แสงอาทิตย์จะฉาบทั่วท้องฟ้า หากเป็นเมื่อสามปีที่แล้วเขาคงไม่สามารถมีชีวิตอยู่ในแสงตะวันได้เลยแม้แต่น้อยมันคงเป็นกฎเกณฑ์ทางธรรมชาติไม่มีใครครอบครองทุกอย่างได้โดยไม่สูญเสียสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เขาได้ชีวิตเป็น อมตะ เมื่อราว ๆ ร้อยปีที่ผ่านมาตอนนั้นเขาเพิ่งฉลองวันเกิดปีที่สามสิบสามของตัวเองได้ไม่กี่วันเขาเป็นตำรวจหนุ่มฝีมือดีในลอนดอนเป็นยุคที่มีข่าวหนาหูเรื่อง แวมไพร์แต่เขาไม่เคยเชื่อเรื่องพวกนี้เลยจนกระทั่งค่ำคืนหนึ่งที่เขาไล่ล่าผู้ต้องหาคดีฆ่านักการเมืองท่านหนึ่งบนถนนเส้นที่มืดมิดฌานพลัดหลงเข้าไปในวงล้อมการต่อสู้คนของกลุ่มหนึ่งเข้าอย่างไม่ได้ตั้งใจเขาถูกยิงและนอนจ่มกองเลือดรอความตามมาเยือนแต่หญิงสาวสวยแสนเย้ายวนกลับปรากฏตรงหน้าพร้อมยื่นข้อเสนอให้ ‘เจ้ายังปรารถนาจะมีชีวิตต่อหรือไม่’ ‘ผมยังไม่อยากตาย’ ‘ไม่มีผู้ใดหลีกหนีความตายได้’ เธอหัวเราะเสียงใส ‘แต่หากเจ้าก้าวพ้นความตายได้ เจ้าจะเป็นอมตะ’ ชายหนุ่มถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อเลี้ยวรถเข้าไปจอดในคอนโดเรียบร้อยแล้วเขาก็ก้าวลงมาจากรถด้วยท่าทีเหนื่อยๆ ผิดกับเมื่อครู่ที่ยังหัวเราะในลำคอเบาๆ ฌานรู้ดีว่าไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอดีตของตนเองได้อีกแล้วเขาใช้เวลานานนับปีกว่าจะยอมรับว่าเลือดในกายของเขาเปลี่ยนไปแล้วการยอมรับและปรับตัวให้เข้ากับปัญหาเป็นเรื่องสำคัญที่สุดพลังวิเศษที่เขามีทำให้เขาพาตัวเองมาที่ห้องของดร.อธิปัตย์ได้ไม่ยากนัก ชายหนุ่มเลิกคิ้วเมื่อผลักบ้านประตู้เข้าห้องแล้วส่ายหน้าไปมาแม้จะไม่ได้เปิดไฟแต่เขาก็สัมผัสได้ถึงความ ‘รก’ ในห้องๆ นี้ “คนเป็นดร.นี่เป็นอย่างนี้ทุกคนหรือเปล่านะ” เขาเดินสะดุ้งกล่องนมที่หล่นพื้น มือใหญ่ก้มลงเก็บเศษขยะที่เดาได้ว่าดร.คงโยนมันใส่ถังขยะแต่พลาดเป้า เขาส่ายหน้าแล้วใช้พลังจิตจับมันใส่ถังขยะเสื้อผ้าใส่แล้วพาดอยู่ที่โซฟาหนังสือกองมหึมาล้นจากชั้นหนังสือจนต้องวางกับพื้นไม่ต้องไปยุ่งกับโต๊ะทำงานที่มีเครื่องคอมพิวเตอร์วางอยู่เลยด้วยซ้ำเพราะมันมีเอกสารอะไรไม่รู้มากมายวางไว้ “เนี่ยนะ...คนได้ปริญญาเอกสามใบ” ฌานพึมพำเปิดตู้เย็นเห็นมีเพียงนมสดรสสตอเบอรี่ ไม่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอร์เลยสักนิด เขาหยิบน้ำเปล่ามาดื่มแล้วเดินมาที่ระเบียงเพียงเลื่อนประตูกระจกออกเขาก็รู้ได้ทันทีว่าเจ้าของห้องไม่ได้เดินมาจุดนี้นานพอสมควร ห้องพักบนสิบสี่ทำให้เห็นกรุงเทพได้ค่อนข้างทั่วเขาตบเก้าอี้เอนหลังไล่ฝุ่นก่อนจะเอนตัวลงนอนเหยียดเท้าบนโต๊ะตัวเล็กใกล้ๆ “รู้งี้ซื้อเบียร์เข้ามาด้วยก็ดี” เขาบนแล้วหยิบแว่นสีชามาสวมหลับตาลงอีกครั้งปล่อยให้สมองได้คิดถึงใบหน้าหวานที่ไม่ยอมใครง่ายๆ เมื่อครู่ ไม่บ่อยนักที่เขาจะยิ้มยิ้มจากความรู้สึกภายใน
ตั้งค่า
ประวัติการอ่าน
ขนาดตัวอักษร
-18
ปลดล็อกบทถัดไปโดยอัตโนมัติ
สารบัญ
ตอนที่ 1 จุดเริ่มค้น ตอนที่ 2 นักข่าวสาว ตอนที่ 3 ดาราสาว ตอนที่ 4 มาแล้วเหรอ ตอนที่ 5 จมูกดี ตอนที่ 6 ให้กำลังใจตัวเอง ตอนที่ 7 ข่าว ตอนที่ 8 คุณว่าอะไรนะคะ ตอนที่ 9 กรุงเทพฯ 33 ปีที่แล้ว ตอนที่ 10 แด่ลูกแกะตัวที่ 5 ตอนที่ 11 ละอาย ตอนที่ 12 อย่ามาเชื่อใจผม appตอนที่ 13 ซวยแล้ว appตอนที่ 14 มาทำอะไรที่นี่ appตอนที่ 15 ภาพร่างของความรู้สึก appตอนที่ 16 ความรักอย่างเดียวไม่พอ appตอนที่ 17 ไร่ชงคา appตอนที่ 18 ไม่ถนัดจะปลอบขวัญใครเสียด้วย appตอนที่ 19 นี่มันพระเอกในนิยายชัดๆ appตอนที่ 20 อาหารเช้า appตอนที่ 21 น่าอิจฉา appตอนที่ 22 คุณเชื่อเรื่อง Destiny…ไหมครับ appตอนที่ 23 เลือดของเธอกำลังเรียกปีศาจในตัวเขา appตอนที่ 24 บ้าจริง!ไปคิดถึงเขาทำไม appตอนที่ 25 อย่าดื้อ appตอนที่ 26 คุณเรียกผม appตอนที่ 27 คำก็เพื่อนสองคำก็เพื่อน appตอนที่ 28 เสียงที่คุ้นเคย appตอนที่ 29 กระหาย appตอนที่ 30 เมื่อคืนคุณจูบฉันหรือเปล่า appตอนที่ 31 กลิ่นความชั่วร้าย appตอนที่ 32 พายุกระหน่ำ appตอนที่ 33 ปลุกให้ตื่นจากความฝันที appตอนที่ 34 คิดอะไรอยู่ appตอนที่ 35 ขอโทษที่ทำให้ลำบากใจ appตอนที่ 36 ในความทรงจำ appตอนที่ 37 ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง appตอนที่ 38 เหมือนคนที่เคยรู้จัก appตอนที่ 39 ผู้หญิงคนนั้น appตอนที่ 40 ข่มความตื่นเต้น appตอนที่ 41 เจ็บไม่นาน appตอนที่ 42 จะมีเรื่องอะไรอีก appตอนที่ 43 มาทำอะไรในห้องของข้า appตอนที่ 44 ข่มอารมณ์ appตอนที่ 45 อย่าไป appตอนที่ 46 หมดสติ appตอนที่ 47 ผู้หญิงของฌาน appตอนที่ 48 จบ app
เพิ่มในชั้นวางหนังสือ
ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น
Joyread
บทก่อนหน้า บทต่อไป
ทรัพยากร
ติดตามพวกเรา
Joyread
UNION READ LIMITED
Room 1607, Tower 3, Phase 1 Enterprise Square 9 Sheung Yuet Road Kowloon Bay Hong Kong
ลิขสิทธิ์ © Joyread สงวนลิขสิทธิ์