ตอนที่ 6 ฝ่าบาททรงพระปรีชา

“ไม่ทราบเรอะ?” ฮ่องเต้หนุ่มยิ้มเยาะ “ผู้ลี้ภัยที่เจียงโจวมาถึงเมืองหลวงแล้ว พวกเจ้ากลับพูดว่าไม่ทราบ เหล่าขุนนางตาบอด หูหนวกเต็มราชสำนัก อย่างนั้นราชสำนักเลี้ยงพวกตาบอดหูหนวกเช่นพวกเจ้าจะมีประโยชน์อันใด?” ขุนนางเต็มราชสำนัก แต่กลัวจนไม่กล้าพูด ดวงตาหงส์ของเฟิงเฉิงหานมองคนที่คุกเข่าในท้องพระโรงแห่งนี้ หากไม่มีคนเสี่ยงชีวิตส่งฎีกานี้มาถึงมือเขา เขาคงไม่รู้ว่าในราชสำนักแห่งนี้มีคนมากมายที่ไม่กล้าล่วงเกินลุงแสนดีของเขา ตอนแรกเพื่อกำจัดกับเหลิ่งเทียนหมิงจิ้งจอกเฒ่าคนนั้น เขาจำเป็นต้องดันลุงของตัวเองขึ้นมาต่อสู้กับจิ้งจอกเฒ่าคนนั้น หักกรงเล็บและเขี้ยวของจิ้งจอกเฒ่าทิ้ง และแต่งตั้งลุงของเขาขึ้นเป็นฉางอันอ๋อง คิดไม่ถึงว่าตอนนี้เขากำลังจะกลายเป็นเหลิ่งเทียนหมิงคนที่สองแล้ว “ปีก่อนราชสำนักเพิ่งจัดสรรเงินเสริมความแข็งแรงของเขื่อนที่เจียงโจว แต่น้ำท่วมครั้งเดียวก็ต้านไม่ไหว ถูกน้ำซัดจนพังแล้ว ฎีกานี้เขียนเอาไว้ว่ามีคนโกงเงินเสริมเขื่อน ขณะดำเนินการแอบลดงาน ลดวัสดุจึงทำให้ต้านน้ำหลากไว้ไม่ได้ ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างหนัก” ขุนนางใหญ่ไม่น้อยแอบเงยหน้ามองฉางอันอ๋องที่คุกเข่าอยู่หน้าสุด ต่างรู้กันหมดผู้ว่าฯ เจียงโจวเป็นคนของฉางอันอ๋อง เงินนี้จะเข้ากระเป๋าของใครได้? อัครมหาเสนาบดีฝ่ายขวาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงพูดว่า “ฝ่าบาท สถานการณ์เร่งด่วนควรส่งคนไปช่วยผู้ประสบภัยและตรวจสอบเรื่องทุจริตเงินเสริมเขื่อนพ่ะย่ะค่ะ” เฟิงเฉิงหานชำเลืองมองอัครมหาเสนาบดีฝ่ายขวาถามว่า “เจ้ามีผู้เหมาะสมเสนอหรือไม่?” อัครมหาเสนาบดีฝ่ายขวาก้มหน้าพูดว่า “ในช่วงสั้นๆ กระหม่อมก็ไม่รู้ควรเสนอใครไปพ่ะย่ะค่ะ” ฉางอันอ๋องเป็นอ๋องที่ไม่มีสายเลือดโดยตรงเพียงคนเดียวของแคว้นเทียนหยวนในตอนนี้ แม้ว่าไม่มีที่ดินตามศักดินา แต่บรรพบุรุษของฉางอันอ๋องอยู่เจียงโจว พูดได้ว่าแผ่นดินเจียงโจวเป็นของเขา หากคนนอกอยากไปสืบคดีทุจริตเงินเสริมเขื่อน ไม่ตรวจสอบก็รายงานกับฮ่องเต้ไม่ได้ แต่หากคิดจะตรวจสอบอย่างนั้นก็มีแต่ไปไม่มีกลับ เหล่าขุนนางต่างแอบภาวนาในใจ ให้เรื่องนี้ไม่เป็นตัวเอง เฟิงเฉิงหานยิ้มแล้ว สุดท้ายสายตาหยุดที่ตัวฉางอันอ๋องลุงของเขา “หากข้าจำไม่ผิดละก็ ฉางอันอ๋องเป็นคนเจียงโจวกระมัง!” ฉางอันอ๋องหรี่ตา ไม่รู้ว่าหลานชายตัวดีของตัวเองวางแผนอะไรอยู่ “ใช่ พ่ะย่ะค่ะ” “ฉางอันอ๋องเป็นคนเจียงโจว คงเข้าใจสถานการณ์ที่เจียงโจวดีกว่าใคร อย่างนั้นก็ส่งฉางอันอ๋องไปช่วยผู้ประสบภัยที่เจียงโจว ตรวจสอบคดีทุจริตเงินเสริมเขื่อน ทุกคนมีใครคัดค้านหรือไม่?” ขุนนางคนอื่น นอกจากพรรคพวกของฉางอันอ๋องต่างพูดเสียงดังว่า “ฝ่าบาททรงพระปรีชา” อัครมหาเสนาบดีฝ่ายขวายิ้มว่า “ฉางอันอ๋องเป็นคนเจียงโจว ส่งฉางอันอ๋องไปช่วยผู้ประสบภัย ตรวจสอบคดีทุจริตเป็นเรื่องดีที่สุดแล้วพ่ะย่ะค่ะ” เจ้ากรมพระคลังก็พูดว่า “ฝ่าบาททรงพระปรีชา ฉางอันอ่องภักดีต่อฝ่าบาทและรักประชาชนเป็นคนที่เหมาะสมกับการช่วยผู้ประสบภัยและตรวจสอบคดีที่สุดพ่ะย่ะค่ะ” ฉางอันอ๋องก้มหน้าซ่อนความชั่วร้ายในดวงตา “ฉางอันอ๋อง อย่างนั้นเรื่องเจียงโจวก็มอบให้เจ้าแล้ว” เฟิงเฉิงหานมองหน้าพร้อมพูดกำชับกับฉางอันอ๋อง “เจ้าจะต้องช่วยชาวบ้านเจียงโจวให้เรียบร้อย สืบค้นจับตัวคนที่ทุจริตเงินเสริมเขื่อนออกมา ตรวจสอบเงินเสริมเขื่อนหายไปไหนแล้วทวงกลับคืนมา” ฉางอันอ๋องประสานมือหายใจเข้าลึกๆ พูดว่า “กระหม่อมจะไม่ทำให้ฝ่าบาทผิดหวังพ่ะย่ะค่ะ” “ทุกคนลุกขึ้นเถอะ!” เฟิงเฉิงหานยกมือขึ้น ทุกคนต่างลุกขึ้น ครู่ต่อมา หัวหน้าขันทีหวังซินก็เปล่งเสียงสูง “มีเรื่องเชิญกราบทูล หากไม่มีอะไรก็เลิกประชุม” ฮ่องเต้โมโหเช่นนี้ เหล่าขุนนางไม่กล้าพูดถึงเรื่องแต่งตั้งฮองเฮา คัดเลือกหญิงงามอีกโดยธรรมชาติ ต่างยืนอยู่เงียบๆ ก็เลิกประชุม โอรสสวรรค์ไปแล้ว เหล่าขุนนางใหญ่ถึงทยอยเดินออกจากตำหนักจินหลวน ฉางอันอ๋องเดินอยู่หน้าสุด เจ้ากรมพระคลังเดินข้างอัครมหาเสนาบดีฝ่ายขวามองฉางอันอ๋องที่อยู่ข้างหน้ายิ้มว่า “ฝ่าบาทวางแผนได้ดีจริงๆ ให้ฉางอันอ๋องไปช่วยผู้ประสบภัย ตรวจสอบเรื่องทุจริตเสริมเขื่อน ไม่ว่ามีกี่คนที่พัวพันกับเรื่องนี้ ฉางอันอ๋องก็ต้องผลักคนของตัวเองออกมาหนึ่งคน เงินที่ทุจริตไปก็ต้องคายออกมาหมด ทำให้ฉางอันอ๋องหักขาตัวเอง ฝ่าบาททรงพระปรีชาจริงๆ!” หากเปลี่ยนเป็นคนอื่นรับผิดชอบ คงไม่ได้ผลลัพธ์เช่นนี้ ไม่เพียงเอาเงินที่ทุจริตคืนมาไม่ได้ ยังจะทิ้งชีวิตที่เจียงโจว อัครมหาเสนาบดีฝ่ายขวาลูบเคราใช้ความคิดแล้วพูดว่า “ฝ่าบาทของพวกเราเก่งจริงๆ! ไม่อย่างนั้นจะล้มเหลิ่งเทียนหมิงจิ้งจอกเฒ่าตัวนั้นได้อย่างไร” เพราะอดีตฮ่องเต้ไว้ใจเหลิ่งเทียนหมิงขุนนางเจ้าเล่ห์คนนี้มากเกินไป ในราชสำนักแทบจะถูกเหลิ่งเทียนหมิงควบคุม ฮ่องเต้องค์ใหญ่ขึ้นครองราชย์ถูกเหลิ่งเทียนหมิงมัดมือมัดเท้า เหลิ่งเทียนหมิงมีความคิดทะเยอทะยานใครๆ ต่างก็รู้ดี ฮ่องเต้องค์ใหม่แสร้งเชื่อฟังพึ่งพาเหลิ่งเทียนหมิง สุดท้ายก็กำจัดเหลิ่งเทียนหมิงพร้อมพรรคพวกของเขาทิ้งจนหมด และฉางอันอ๋องในตอนนี้มีท่าทีจะกลายเป็นเหลิ่งเทียนหมิงคนที่สองแล้ว ฮ่องเต้ส่งฉางอันอ๋องไปเจียงโจวในครั้งนี้ก็เพื่อจะตักเตือนฉางอันอ๋อง เฟิงเฉิงหานเพิ่งเลิกประชุม ชุยมามาของตำหนักอวิ๋นเสียงก็เดินเข้ามาแล้ว “ฝ่าบาทเพคะ ไทเฮาเชิญพระองค์ไปตำหนักอวิ๋นเสียงสักเที่ยว” ชุยมามาพูดพร้อมย่อตัวลง เฟิงเฉิงหานชำเลืองมองชุยมามาสายตาเย็นชา หมุนตัวเดินไปทางตำหนักอวิ๋นเสียง เสด็จแม่ของเขาคนนี้รู้ข่าวไวจริงๆ! ตำหนักอวิ๋นเสียง ในตำหนักที่หรูหรา หญิงวัยกลางคนแต่งชุดแดงสวมมงกุฎหงส์กำลังเอนตัวบนเตียงหลัวฮั่น หรี่ตาเคลิ้มกับการนวดของนางกำนัล “ฝ่าบาทเสด็จ” ขันทีข้างนอกประกาศเสียงดัง หญิงสาวลืมตาขึ้น ไม่นานก็เห็นบุตรชายสวมชุดแดงมังกรทองเก้ากรงเล็บเดินเข้ามาในตำหนัก “บ่าวถวายบังคมฝ่าบาทเพคะ” นางกำนัลที่รับใช้ในตำหนักทยอยคุกเข่าทำความเคารพ เฟิงเฉิงหานยกมือ ยืนอยู่กลางห้องประสานมือคำนับหญิงงามบนเตียงหลัวฮั่นพร้อมพูดทักทายว่า “เสด็จแม่” ชุยมามายกเก้าอี้มา “ฝ่าบาทเชิญนั่งเพคะ” เฟิงเฉิงหานนั่งลงมองเสด็จแม่ที่หน้าตายังคงงดงามด้วยใบหน้าเฉยเมย สายตาห่างเหิน ไทเฮามองลูกชายใบหน้าเย็นชา สุดท้ายก็ไม่เข้าใจลูกชายของตัวเองแท้ๆ ทำไมถึงห่างเหินกับตัวเองเช่นนี้? และนางเองก็ชอบลูกชายคนนี้ไม่ลง อยากถามว่ามีแม่คนไหนที่จะชอบลูกชายทำหน้าเย็นชาตลอดเวลาบ้าง “ข้าได้ยินว่าวันนี้ขุนนางใหญ่เสนอให้เจ้าแต่งตั้งเยียนเอ๋อร์ผู้น้องของเจ้าเป็นฮองเฮา เจ้าไม่เพียงไม่ตกลงกลับยังโมโหหรือ?” เฟิงเฉิงหานยิ้มว่า “เสด็จแม่ทราบข่าวเร็วจริงๆ ข้าเพิ่งเลิกประชุม เสด็จแม่ก็ทราบเรื่องแล้ว” ไทเฮาฟังไม่ออกว่าเขากำลังประชดประชันจึงขมวดคิ้วว่า “เจ้าอายุไม่น้อยแล้ว ควรแต่งตั้งฮองเฮามีทายาท ข้าเห็นเยียนเอ๋อร์ตั้งแต่เด็กยังเป็นสหายวัยเยาว์ของเจ้า เป็นคนในครอบครัวของพวกเรา แต่งตั้งนางเป็นฮองเฮาเหมาะสมและไว้ใจได้ที่สุดแล้ว เจ้ายังลังเลอะไรอีก?” นางไม่เข้าใจจริงๆ ในหัวของลูกชายนางคนนี้คิดอะไรอยู่? เยียนเอ๋อร์เป็นผู้น้องสายตรงของเขา ตั้งแต่เขาขึ้นครองราชย์ก็มีลุงของเขาช่วยเหลือเขามาโดยตลอด หากเขาแต่งงานกับเยียนเอ๋อร์ แต่งตั้งนางเป็นฮองเฮา เรื่องราชการมีลุงของเขาช่วยดูแล วังหลังมีเยียนเอ๋อร์ช่วยเขาดูแล ทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวเป็นคนกันเอง เขาจะได้สบายใจหมดห่วงไม่ใช่หรือ? เฟิงเฉิงหานแอบยิ้มเยาะ เพราะเป็นคนกันเองนี่แหละ เขาถึงไว้ใจไม่ได้ “เจียงโจวน้ำท่วม ชาวบ้านเร่ร่อนไร้ที่อยู่ ข้ากังวลใจจนนอนไม่หลับ ยิ่งไม่มีจิตใจแต่งตั้งฮองเฮาในเวลาแบบนี้ เรื่องแต่งตั้งฮองเฮาเอาไว้ค่อยคุยกันเถอะ!” เห็นเขาใช้เรื่องงานเป็นข้ออ้าง ไทเฮาพูดอย่างไม่ค่อยพอใจว่า “วังหลังจะขาดนายไม่ได้แม้แต่วันเดียว” ตั้งแต่เขาปลดฮองเฮา นางก็เคยเสนอให้เยียนเอ๋อร์เข้าวังเป็นฮองเฮา แต่เขามักจะใช้เรื่องงานเป็นข้ออ้างเลื่อนไปเรื่อยๆ เฟิงเฉิงหานว่า “ตอนนี้วังหลังมีลี่เฟยดูแลอยู่ ข้ารู้สึกไม่มีปัญหาอันใด ข้ายังมีฎีกาต้องตรวจ หากเสด็จแม่ไม่มีเรื่องอื่น ข้าก็ขอตัวก่อน” เขาพูดอยู่ก็ลุกขึ้นประสานมือหมุนตัวเดินออกไปแล้ว
ตั้งค่า
ประวัติการอ่าน
ขนาดตัวอักษร
-18
ปลดล็อกบทถัดไปโดยอัตโนมัติ
สารบัญ
ตอนที่ 1 ทะลุมิติมาอยู่ในตำหนักเย็น ตอนที่ 2 เลี้ยงเด็กในตำหนักเย็น ตอนที่ 3 นายหญิงเป็นคนที่ทำการใหญ่ ตอนที่ 4 ขยันหาเงิน ตอนที่ 5 เลี้ยงลูกหนึ่งคน จนไปยี่สิบปี ตอนที่ 6 ฝ่าบาททรงพระปรีชา ตอนที่ 7 ไม่กล้าแตะต้องเขา ตอนที่ 8 กลิ่นหอมของเนื้อในตำหนักเย็น ตอนที่ 9 ซาบซึ้งใจและเศร้าใจ ตอนที่ 10 ทำภารกิจในตำหนักเย็น ตอนที่ 11 สร้างภาพ ตอนที่ 12 พึ่งพาตัวเอง ตอนที่ 13 ขายได้ราคาดี ตอนที่ 14 แม่ค้าหัวหมอ ตอนที่ 15 ผู้หญิงแต่งตัวเพื่อคนที่รัก ตอนที่ 16 แหย่เด็กจนร้องไห้ ตอนที่ 17 ปลูกผัก ตอนที่ 18 เปลี่ยนลักษณะ appตอนที่ 19 สนมสำส่อน appตอนที่ 20 ผู้หญิงเหมือนกัน ทำไมผู้หญิงต้องทำให้ผู้หญิงด้วยกันลำบากใจด้วย appตอนที่ 21 appตอนที่ 22 appตอนที่ 23 appตอนที่ 24 appตอนที่ 25 appตอนที่ 26 appตอนที่ 27 appตอนที่ 28 appตอนที่ 29 appตอนที่ 30 app
เพิ่มในชั้นวางหนังสือ
ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น
Joyread
บทก่อนหน้า บทต่อไป
ทรัพยากร
ติดตามพวกเรา
Joyread
FINLINKER TECHNOLOGY LIMITED
69 ABERDEEN AVENUE CAMBRIDGE ENGLAND CB2 8DL
ลิขสิทธิ์ © Joyread สงวนลิขสิทธิ์