ตอนที่ 9 อำนาจยิ่งใหญ่

โต๊ะกาแฟแตกเสียงดังเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย กระจัดกระจายระยิบระยับวับวาวทั่วพื้น เศษคริสตัสบาดฝ่ามือเหนือเมฆจนเลือดหยดลงพื้นติ๋งๆ ภายนอกบ้าน การ์ดติดอาวุธนับสิบนายได้ยินเสียงคำรามของเขา แล้วก็รู้สึกหวาดกลัวตัวสั่นจนควบคุมไม่อยู่ ไม่มีใครกล้าสูดหายใจเข้าลึกด้วยซ้ำ ในตอนนั้นเจนภพเดินเข้าไป ฝีก้าวเต็มไปด้วยความหนักอึ้ง เขาประกาศออกไปอย่างเคารพนบน้อม “คุณเหนือเมฆ มีคนมาหาครับ” “ใครมา” เหนือเมฆเอ่ยถามพลางเอาทิชชูเช็ดเลือดออกจากมือ “สิงหา เกื้อกูล พ่อบ้านตระกูลยิ่งยงครับ” เจนภพตอบด้วยเสียงทุ้มเบา ได้ยินลูกน้องเอ่ยถึงตระกูลยิ่งยง เหนือเมฆก็รู้สึกเสียวสันหลังวาบ ดวงตาเขาหดลงอย่างไม่ได้ตั้งใจ เขากระตุกหัวเราะอย่างเย็นชาและเหน็บแนม “ให้เขาเข้ามา!” “มีคนตามเขามาด้วยจำนวนหนึ่งครับ มีอาวุธครบมือ ให้เราปลดอาวุธพวกเขาก่อนแล้วให้คลานเข่าเข้ามาดีไหมครับ” เจนภพถาม “ไม่จำเป็น คนธรรมดาไม่กี่คนทำอะไรฉันไม่ได้หรอก” เหนือเมฆบอก คิ้วเลิกขึ้นด้วยนึกขัน “เข้าใจแล้วครับ” เจนภพตอบก่อนจะเดินออกไป ไม่นานก็มีเสียงฝีเท้าของคนหลายคนดังก้องมา เจนภพที่นำกลุ่มชายสิบกว่าคนนั้นมีความตื่นตัวเต็มที่เพราะอีกฝ่ายหนึ่งเป็นคนแปลกหน้า กลุ่มคนแปลกหน้ากลุ่มนี้นำโดยคนสองคน คนหนึ่งเป็นชายอายุหกสิบกว่าๆ สวมหมวกกลม ใบหน้าเขาซูบตอบ มีเคราแพะอันเป็นเอกลักษณ์ สวมรอยยิ้มที่ทั้งดูร่าเริงและน่าขนลุกไปพร้อมๆ กัน อีกคนอยู่ในวัยรุ่งโรจน์ มีไหล่กว้าง กล้ามเป็นมัด บุคลิกน่าเกรงขาม มีรัศมีความเย่อหยิ่งประหนึ่งว่าไม่มีใครสำคัญสำหรับเขาอีกแล้ว มีชายร่างกายบึกบึนกว่ายี่สิบคนเดินตามเขามา ล้วนแต่เป็นบอดี้การ์ดชั้นยอดพร้อมอาวุธปืน ชายชราผู้ดูสง่างามตามวัยนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากสิงหา พ่อบ้านตระกูลยิ่งยง เขามีชื่อเสียงในไชยกรุงพอสมควร เขาเคยเสี่ยงชีวิตและร่างกายรับใช้ตระกูลยิ่งยงมานานหลายปี เป็นที่รู้จักว่าเป็นคนมีกลยุทธ์หลักแหลม ได้รับขนานนามว่าราชาปีศาจ ส่วนชายวัยรุ่งโรจน์นั้นไม่รู้ที่มาที่ไป สิงหามีท่าทีสงบนิ่งสงวนตัวขณะเดินไปหาเหนือเมฆด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า เขายื่นมือไปข้างหน้าพร้อมเอ่ยทักทาย “ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณเหนือเมฆ” เหนือเมฆนอนเล่นอยู่บนโซฟาหนังด้วยแววตาเหยียดหยันขณะเอ่ยปาก “นายยังไม่คู่ควรที่จะได้จับมือฉัน” ใบหน้าสิงหาแข็งทื่อไปครู่หนึ่ง แต่ด้วยความผ่านอะไรมาเยอะแล้วเขาจึงสงวนท่าทีได้อย่างรวดเร็วก่อนจะตอบด้วยเสียงหัวเราะ “คุณเหนือเมฆนี่ยอดเยี่ยมจริงๆ!” ขณะพูดเขาก็ทำมือให้ชายร่างสูงใหญ่วัยรุ่งโรจน์นั่งลง ในตอนนั้นเจนภพตะคอกด้วยโทสะ “เจ้านายฉันอนุญาตให้นั่งแล้วเหรอ” เขารีบคว้าปืนกลมือมาเล็งใส่ชายทั้งสองคนทันที เจนภพทำเช่นนี้ทำให้เกิดปฏิกิริยาตอบรับติดต่อกันเป็นทอดๆ ในทันที พรึ่บ! พรึ่บ! พรึ่บ! ทั้งสองฝ่ายที่อยู่ในเหตุการณ์พร้อมใจกันชักปืนออกมา เตรียมจะลั่นไกในทุกเมื่อ บรรยากาศในห้องตึงเครียดและน่าอึดอัดอย่างยิ่ง ใบหน้าสิงหามีร่องรอยความไม่พอใจเพราะไม่คาดคิดว่าเจนภพจะกล้าทำเช่นนี้ หมอนี่ไม่กลัวว่าเรื่องนี้จะกลายเป็นเหตุนองเลือดหรือไงนะ ใบหน้าเหนือเมฆยังคงไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ ขณะพูด “สิงหา ตระกูลยิ่งยงส่งนายมาเหรอ ฉันยังไม่ได้เริ่มไล่ล่าพวกนายเลยนะ แต่กลับมารนหาที่ตายถึงบ้านฉันเลยเหรอ” สิงหาส่งเสียงหัวเราะเย็นเยียบ ในฐานะพ่อบ้านตระกูลยิ่งยง เขาไม่สามารถแสดงความด้อยกว่าออกไปได้แม้แต่น้อย “ตระกูลยิ่งยงไม่ใช่สิ่งที่คุณจะกำราบได้ง่ายๆ ระวังตัวหน่อยก็แล้วกัน เล่นกับไฟมีแต่จะไหม้มือ อาจจะต้องสูญเสียชีวิตไปเลยก็ได้” สิงหาพูดเย้าแหย่ “เลิกเพ้อเจ้อซะที อย่าคิดทำให้ฉันเสียเวลา ตระกูลยิ่งยงมีอะไรอยากจะพูดถึงได้ส่งหมาเฝ้าบ้านมา” เหนือเมฆเอ่ย ในดวงตาสิงหามีวี่แววความรำคาญใจ ทว่าเขายังคงข่มกลั้นอารมณ์เอาไว้แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “คดีเกี่ยวข้องกับภรรยาคุณเป็นเรื่องซับซ้อนและมีแต่ความเข้าใจผิด ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง เป็นสถานการณ์ที่น่าเศร้าจริงๆ ตระกูลยิ่งยงจึงมาขอให้คุณไม่ต้องสืบสวนต่อ” เหนือเมฆเดือดดาลด้วยโทสะ เขาพูดด้วยเสียงแข็งกร้าวเด็ดขาด “ตระกูลยิ่งยงไม่อยากให้ฉันสืบต่อเหรอ แต่ฉันจะสืบ ไม่ใช่แค่สืบนะ ฉันจะฆ่าด้วย! กลับไปบอกตระกูลยิ่งยงให้เตรียมตัว เตรียมโลงศพ และเตรียมพินัยกรรมเอาไว้ให้พร้อม ทีนี้ออกไปได้แล้ว!” “ไม่จำเป็นต้องหัวเสียหรอกคุณเหนือเมฆ มาฟังข้อตกลงกันหน่อยแล้วกัน” คำพูดสิงหาแฝงความนัย เหนือเมฆจ้องมองเขา “อ้อเหรอ ไหนดูซิว่ามีข้อเสนออะไร” สิงหาบรรจงหยิบเช็คออกมาจากกระเป๋าแล้วยื่นให้อีกฝ่าย “เอานี้ไปดูก่อนสิครับ” เหนือเมฆรับเช็คมาแล้วชำเลืองตามองดู เช็คมีตราประทับสีแดงของแผนกการเงินตระกูลยิ่งยง เขียนตัวเลขห้าสิบล้านเอาไว้ “ผมเชื่อว่าเงินห้าสิบล้านไม่ใช่จำนวนน้อยๆ อีกอย่างตระกูลยิ่งยงก็เข้าอกเข้าใจความโศกเศร้าที่คุณต้องสูญเสียภรรยา เพราะฉะนั้นพวกเขาจึงให้สัญญาว่าจะให้คุณเหนือเมฆเลือกหญิงสาวหน้าตาสะสวยสามคนที่อยู่ในอาณาเขตไชยกรุง ไม่ว่าจะเป็นดารา นางแบบ นักเรียน หรือแม้แต่หญิงที่แต่งงานแล้วก็ย่อมได้ ถ้าคุณเลือกแล้วเราจะหาวิธีส่งผู้หญิงพวกนี้ให้คุณ คุณจะเอาไปทำอะไรก็ได้ตามอำเภอใจ คิดเสียว่าผู้หญิงพวกนี้เป็นทาสไปตลอดชีวิตก็แล้วกัน” สิงหาเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง เมื่อทุกคนได้ยินเช่นนั้นก็มีเสียหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย ดูจากข้อเสนออันไม่น่าเชื่อนี้แล้ว ชัดเจนว่าตระกูลยิ่งยงมีอำนาจยิ่งใหญ่จริงๆ มีเพียงเหนือเมฆเท่านั้นที่ยังทำหน้านิ่งไร้อารมณ์