หน้าแรก
จัดลำดับ
หมวดหมู่ยอดนิยม
เติมเงิน
ชั้นหนังสือ
ภาษาไทย
ลงทะเบียน
ตอนที่ 7 เธอก็ยังไม่พูด
ดวงตาของยูนีสยังสงบนิ่ง “แล้วถ้าฉันชินกับความเจ็บล่ะ?” โอเว่นชะงักไป
เธอหมายความว่ายังไงที่ว่า ‘ชินกับความเจ็บ’? ถ้าเจ็บ ก็ควรจะพูดออกมาไม่ใช่เหรอ? จะทนทำไม?
ยูนีสพูดต่อ “เพราะพูดไปมันก็ไม่มีประโยชน์ ยังไงก็ไม่มีใครช่วย สุดท้ายก็ต้องทนอยู่ดี พอทนไปนานเข้า ก็จะเริ่มชินกับมันไปเอง” โอเว่นเริ่มไม่แน่ใจ “ฉันส่งเธอไปโรงพยาบาลจิตเวชที่ได้มาตรฐานนะ คนไข้ทุกคนได้รับการดูแลเหมือนกัน หลายเคสจากโรงพยาบาลของเราก็ไปรักษาที่นั่น ได้ผลดีทั้งนั้น” ยูนีสตอบเรียบๆ “เพราะพวกเขามีคนจ่ายเงินใต้โต๊ะ มีญาติมาเยี่ยมตลอด แต่คนอย่างพวกเราที่ไม่มีใครสนใจ ถึงจะโดนทำร้ายก็ไม่มีใครรับผิดชอบ” คำพูดนั้นทำให้โอเว่นรู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก เขาสวนเสียงแข็ง “เธอพูดแบบนี้ก็เพราะจะโทษว่าพวกเราทิ้งเธอเหรอ? ถ้าคิดจะทำให้เรารู้สึกผิด อย่างน้อยก็ควรแต่งเรื่องให้มันน่าเชื่อหน่อย! ถ้าเธอโดนรังแกจริง มันจะหนักถึงขั้นบาดเจ็บกดทับได้ยังไง? หรือว่าเขาขับรถเหยียบเธอ?” ยูนีสหัวเราะออกมาเบาๆ “โรงพยาบาลจิตเวชไม่เหมือนโรงพยาบาลปกติ มีกฎเข้มงวดสำหรับควบคุมผู้ป่วย เราใช้ตะเกียบ ส้อม หรืออะไรก็ตามที่อาจใช้เป็นอาวุธไม่ได้ เราต้องนั่งยองๆ กินข้าวด้วยมือ ตอนอาบน้ำ พวกเขาเอาเราขังในกรง แล้วฉีดน้ำแรงสูงใส่ ไม่มีการเล่าเรียน ไม่มีอะไรให้ทำ นอกจากกินกับนอน แล้วก็เดินเล่นวนอยู่ในลานกว้างทั้งวัน เพราะไม่มีอะไรทำ พวกเราก็คิดเกมขึ้นมาเล่นเอง เช่น ดึงแขนขาไปคนละทาง จับผมขี่เล่นเหมือนม้า มัดคนไว้กับรั้วไฟฟ้าแล้วกดไฟช็อตซ้ำๆ แต่เกมที่พวกเขาชอบที่สุด คือเกมซ้อนคน พวกเขาจะปีนขึ้นซ้อนกันไปเรื่อยๆ เพื่อให้เกิดความรู้สึกแน่นหายใจไม่ออก กับอาการเวียนหัวเหมือนจะตาย ปีที่แล้วมีคนตายเพราะเกมนี้ คนแรกกระโดดลงมาทับใส่ด้านล่างจนซี่โครงหัก คนอื่นๆ ก็ไล่ตามขึ้นมาทับจนซี่โครงทิ่มหัวใจ ใช้เวลาสิบนาทีถึงรู้ว่าเขาตายแล้ว” ดวงตาโอเว่นเบิกกว้าง เขาถอยหลังอัตโนมัติอย่างไม่รู้ตัว อะไรบางอย่างในหัวแล่นวาบขึ้นมา
เมื่อปีที่แล้ว ฉันเคยเซ็นใบรับรองการเสียชีวิตให้คนหนึ่ง ฉันเห็นศพกับตา
ร่างนั้นมีร่องรอยอวัยวะภายในฉีกขาดอย่างชัดเจน ม้ามแตก ซี่โครงหัก กระดูกหน้าอกและเชิงกรานแตก แต่สิ่งที่แปลกคือ คนคนนั้นไม่ได้ตายจากการเสียเลือด แต่ตายเพราะขาดอากาศหายใจแบบกลไก มีรอยแผลจากการดิ้นตะเกียกตะกายต่อเนื่องอย่างน้อยสิบนาที ก่อนจะหมดลมหายใจ
ตอนนั้นฉันไม่ได้คิดอะไร แค่จำได้ว่าครอบครัวไม่ยอมให้ชันสูตร และรับเงินชดเชยก้อนโตไป
หรือว่า… ผู้หญิงคนนั้นจะเป็น...
ลิลี่กุมหน้าร้องไห้ ร่างสั่นเทิ้มจากภาพที่ยูนีสเล่า น้ำเสียงเครืออย่างปวดใจ “ยุนนี่ พวกเขาทำแบบนั้นกับลูกด้วยเหรอ?”
ตอนยูนีสถูกส่งเข้าโรงพยาบาลจิตเวช เธอเพิ่งอายุแค่สิบแปด เป็นเด็กสาวเงียบๆ บอบบางขนาดนั้น… จะไม่โดนรังแกได้ยังไง?
ดวงตาโอเว่นแดงก่ำ ลำคอเหมือนมีอะไรติดอยู่ บีบรัดจนหายใจแทบไม่ออก เมื่อเห็นสีหน้าลังเลปนสับสนของเขา ยูนีสจึงพูดแทน “คุณกำลังจะพูดว่า ‘โรงพยาบาลจิตเวชก็แบบนี้แหละ’ ใช่ไหม? คนบ้าไม่รู้จักเส้นแบ่ง ถ้าจะโทษ ก็ต้องโทษฉันเองที่ไม่อดทน ไม่มีเมตตา อยากทำร้ายเอลซี เลยถูกส่งไปที่นั่นใช่ไหม? ฉันควรจะขอบคุณที่ไม่ได้ถูกส่งเข้าคุกใช่ไหม?” โอเว่นอ้าปากจะตอบ แต่เมื่อเธอพูดแทงใจ เขาก็กลับกลายเป็นฝ่ายตั้งรับ “มันก็ความจริงไม่ใช่เหรอ?” แต่ยูนีสไม่สนใจเขา เธอหันไปมองลิลี่ตรงๆ และพูดชัดถ้อยชัดคำ “แม่ คนที่ทำร้ายลูกแม่ คือหนูจริงๆ เหรอ?” ลิลี่นิ่งงัน ดวงตาที่เปียกน้ำตากระตุกวูบหนึ่งอย่างตกใจ แต่ก็รีบยกมือปิดหน้าร้องไห้ “พอได้แล้ว! ทั้งหมดนี้มันเป็นความผิดของแม่! ถ้าตอนนั้นแม่ตายในภูเขาไปซะ เรื่องทั้งหมดคงไม่เกิดขึ้นเลย!” เธอร้องไห้ตัวสั่นแทบยืนไม่อยู่ “แม่!” โอเว่นกับเอลซีรีบประคองลิลี่ไปที่โซฟา ยูนีสยังยืนพิงขอบประตูอยู่ ร่างกายเจ็บปวดเกินกว่าจะขยับไปไหนได้ แต่ในสายตาคนอื่น เธอกลับดูเย็นชาและไร้ความรู้สึก โอเว่นยิ่งมองก็ยิ่งโมโห เขาตวาดออกมา “แม่ทำอะไรผิดกับเธอ? เอลซีผิดอะไร? ที่แม่โดนลักพาตัวไปมันเป็นความผิดของแม่เหรอ? ที่เอลซีเกิดมาก็ผิดด้วยเหรอ? เธอเอาแต่ทำตัวเป็นเหยื่อ ทั้งที่จริงๆ แล้วเธอแค่อิจฉา! แม่กับเอลซีไม่มีทางเลือกในชีวิต แต่เธอมี! เธอมีครอบครัว มีชื่อเสียง มีฐานะ… สิ่งดีๆ ทุกอย่างอยู่ในมือเธอ! แต่เธอกลับอิจฉาเอลซีที่ไม่มีอะไรเลย! ดูสิ ตอนนี้เธอยังยืนอยู่ดีๆ ส่วนเอลซีต้องกินยาไปตลอดชีวิต! แล้วเธอยังจะคิดว่าโลกนี้เป็นหนี้เธออีกเหรอ?” สิ้นคำพูดของโอเว่น ลิลี่ก็หลุบตาลง เอลซีเม้มปากแน่น ดูเหมือนกลัวลิลี่จะเผลอพูดอะไรออกมา แต่ยูนีสยังคงจ้องมองลิลี่ แม้เธอจะไม่กล้ามองตอบเลยก็ตาม
สามปีก่อน แม่เห็นทุกอย่างกับตา แม่รู้ดีว่าเอลซีแกล้งทำ แม่รู้ว่าฉันบริสุทธิ์
แต่แม่เลือกจะเงียบ… เพราะแม่ไม่อยากให้ใครเกลียดเอลซี ไม่อยากให้เอลซีถูกไล่ออกจากบ้านซอนเดอร์ส แม่จึงคุกเข่าลงต่อหน้าฉัน ขอร้องให้ฉันรับผิดแทน
คำพูดของแม่ในวันนั้นคือ “ลูกยังเป็นคนในตระกูลซอนเดอร์ส ถึงทำผิดก็ไม่มีใครเอาผิดได้ แต่เอลซีไม่ใช่ ถ้าเธอออกไป เธอจะไม่มีอะไรเหลือเลย”
ฉันปฏิเสธ
แม่จึงให้การเท็จ ว่าฉันเป็นคนแทงเอลซี
เมื่อแม่พูดเช่นนั้น ออสการ์กับโอเว่นก็เชื่อทันที
เพราะในใจของพวกเขา ทั้งฝ่ามือและหลังมือก็คือเนื้อเดียวกัน แม่ไม่มีวันลำเอียง
แต่พวกเขาลืมไปว่า แม้ฝ่ามือกับหลังมือจะเป็นเนื้อเดียวกัน แต่ฝ่ามือมีเนื้อมากกว่า และฝ่ามือคือสิ่งที่คนเราใช้ปกป้อง
เอลซีคือเด็กที่แม่เลี้ยงมากับมือเป็นเวลาสิบห้าปี เป็นดวงใจของแม่ ส่วนฉัน ตั้งแต่เกิดก็ยังไม่เคยถูกแม่กอด ความรู้สึกมันจะเหมือนกันได้ยังไง?
ไม่นาน ลิลี่ก็ยกมือกุมอก หายใจถี่ “อย่าทะเลาะกันเลย ดึกแล้ว พอแค่นี้เถอะ พวกเธอกลับไปพักผ่อนกันได้แล้ว” โอเว่นมองยูนีสอย่างขุ่นเคือง ก่อนจะพยุงเอลซีกลับห้องไปพร้อมลิลี่ ยูนีสถอนหายใจยาว เอนตัวลงบนเตียงอย่างเหนื่อยล้า
ฉันเลิกหวังกับคนในบ้านนี้มานานแล้ว แม้แต่จะให้พาไปโรงพยาบาลก็ไม่คิดจะขอ
อาการของฉันเรื้อรัง ถึงไปโรงพยาบาล อาจจะตรวจไม่เจออะไรเลย และต่อให้เจอ ฉันก็ไม่กล้าขึ้นเขียง
เอลซีอยากให้ฉันหายไปจากโลกนี้ ถ้าฉันถูกวางยาบนเตียงผ่าตัด มีโอกาสสูงที่ฉันจะไม่มีวันลืมตาขึ้นมาอีกเลย
โชคดีที่ฉันรู้เรื่องยาอยู่บ้าง ยังพอดูแลตัวเองได้
พอร่างกายฟื้นเมื่อไร ฉันจะสะสางบัญชีทุกอย่างกับครอบครัวนี้ให้จบสิ้น
ยูนีสไม่อยากมีปัญหา จึงแทบไม่ออกจากห้องในช่วงหลายวันถัดมา จนวันหนึ่งขณะที่จิอันน่าเข้ามาทำความสะอาด เธอก็เจอกล่องยาอัลฟ่าไซร็อกซ์ใต้เตียง แววตาของแม่บ้านคนนั้นเปล่งประกายทันที เธอถ่ายภาพกล่องยาแล้วรีบนำไปให้เอลซีดู ตอนเย็นวันนั้นเอง โอเว่นที่ออกไปพบลูกค้าทั้งวันเพิ่งกลับมาในสภาพมึนเมา พอลเป็นคนขับรถมาส่งถึงบ้าน ทั้งสองคนเปิดประตูเข้ามา เห็นจิอันน่ากำลังคุยกับเอลซี ก่อนจะรีบเช็ดน้ำตาแล้วจบบทสนทนา พอลมองไปรอบๆ แล้วไม่เห็นยูนีส ทำให้รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย
เมื่อก่อน ทุกครั้งที่ฉันมา ยูนีสจะเหมือนแมว ได้ยินเสียงเคลื่อนไหวก็จะโผล่มาทักทันที
แต่สองสามวันที่ผ่านมา ฉันแวะมาบ้านซอนเดอร์สบ่อยมาก กลับไม่เห็นหน้าเธอเลย
เอลซีสังเกตเห็นอาการเหม่อลอยของพอล และก็รู้เช่นกันว่าเขาเริ่มมาเยี่ยมบ้านบ่อยผิดปกติ แถมยังดูใจลอยตลอดเวลา เธออดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่ามีบางอย่างแปลกไป เธอจึงพูดกับจิอันน่า “ไปชงน้ำผึ้งให้คุณโอเว่นหน่อย ดื่มแล้วจะได้รู้สึกดีขึ้น” โอเว่นนั่งอย่างหมดแรงบนโซฟา เอาแขนปิดหน้าด้วยความหงุดหงิด วันนี้เขาเจอเรื่องผิดหวังจากงานจนหมดอารมณ์ และในวินาทีนั้นเอง น้ำร้อนจัดก็สาดลงมาตรงขาเขาอย่างจัง!
บทก่อนหน้า
บทต่อไป
ตั้งค่า
ประวัติการอ่าน
ขนาดตัวอักษร
-18
ปลดล็อกบทถัดไปโดยอัตโนมัติ
สารบัญ
ตอนที่ 1 ปีที่สามในโรงพยาบาลจิตเวช
ตอนที่ 2 ตัวตนที่หายไป
ตอนที่ 3 การชำระบัญชี
ตอนที่ 4 การช่วงชิง
ตอนที่ 5 เขาเป็นคนพิการ
ตอนที่ 6 แผลอยู่ไหน? เอามาให้ดูสิ!
ตอนที่ 7 เธอก็ยังไม่พูด
ตอนที่ 8 หยิบไปโดยไม่ถามก่อนก็คือขโมย
ตอนที่ 9 เขาโดนยูนีสปฏิเสธ
ตอนที่ 10 ฉันไม่อาจเรียกคุณว่าพี่ชายได้อีก
ตอนที่ 11 ออกไปจากบ้านหลังนี้ซะ
ตอนที่ 12 ครอบครัวทั้งสองคุยเรื่องถอนหมั้น
ตอนที่ 13 เขาคือไวแอต คูเปอร์
ตอนที่ 14 ไม่มีความแค้น แล้วเขาตามฉันทำไม?
app
ตอนที่ 15 คู่หมั้นของคุณรู้เยอะดีนี่
app
ตอนที่ 16 จะเอาสร้อยข้อมือคืนมายังไง?
app
ตอนที่ 17 ยานี่ช่วยชีวิตฉัน
app
ตอนที่ 18 จากนี้ไป เธอจะมีชีวิตเพื่อตัวเอง!
app
ตอนที่ 19 ปรสิตดูดเลือด
app
ตอนที่ 20 โอบล้อมและซุ่มโจมตี
app
ตอนที่ 21 เผชิญหน้าไวแอต
app
ตอนที่ 22 แยกตัวยาด้วยกลิ่น
app
ตอนที่ 23 อยู่ข้างไวแอต
app
ตอนที่ 24 ชะเอมเทศ
app
ตอนที่ 25 ความทรงจำถึงพ่อ
app
ตอนที่ 26 ความเฉยชา
app
ตอนที่ 27 การคลุมถุงชน
app
ตอนที่ 28 คำด่าออนไลน์
app
ตอนที่ 29 ความประมาทในการผ่าตัด
app
ตอนที่ 30 สลับตัวตน?
app
เพิ่มในชั้นวางหนังสือ
ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น
บทก่อนหน้า
บทต่อไป
ผู้ใช้พึงรู้
ข้อตกลงของผู้ใช้
นโยบายความเป็นส่วนตัว
ทรัพยากร
ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น
ไปเริ่มเขียน
ติดตามพวกเรา
Facebook
Instagram
Twitter
ติดต่อเรา
service@joyread.com
business@joyread.com
editor@hopwriter.com
DMCA
UNION READ LIMITED
Room 1607, Tower 3, Phase 1 Enterprise Square 9 Sheung Yuet Road Kowloon Bay Hong Kong
ลิขสิทธิ์ © Joyread สงวนลิขสิทธิ์